5 พรรคการเมืองโชว์นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมไทย

ไบเทค 18 มี.ค. –  5 พรรคประชันนโยบายเศรษฐกิจโชว์สมาชิก ส.อ.ท. ทั้งเพิ่มกำลังซื้อ ขยายผลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนที่ตกสำรวจ สำรองน้ำมันปิโตรเลียมเปลี่ยนเป็นสำรองเอทานอลหรือไบโอดีเซลบี 100 จัดทำ Open Government Data 


สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดเสวนาเรื่อง “ทิศทางอุตสาหกรรมไทย  SHAPING THAI INDUSTRY 2025” โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองนำเสนอแนวทางการพัฒนาทิศทางอุตสาหกรรมไทยให้กับกรรมการและสมาชิก ส.อ.ท.ทั่วประเทศ 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุแผนการทำงานเร่งด่วนใน 100 วันแรกหลังการรับตำแหน่งว่า จะเร่งดำเนินการ 2 ข้อ ได้แก่ 1.ต้องเติมกำลังซื้อให้กับคนในประเทศ เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยในกลุ่มเกษตรกรจะนำวิธีการประกันราคาสินค้าเกษตรที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำมามีระบบอยู่แล้วสามารถทำได้ทันที กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ประกันรายได้ โดยรัฐสนับสนุนให้มีรายได้ขั้นต่ำเดือนละ 10,000 บาท หรือ 120,000 บาทต่อปี ซึ่งใช้งบประมาณไม่มากและไม่กระทบเอกชน ส่วนกลุ่มคนจน จะเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 800 บาทต่อเดือน สามารถนำไปซื้อสินค้าร้านใดก็ได้ไม่ต้องซื้อเฉพาะร้านค้าที่กำหนด ทำให้เม็ดเงินกระจายไปทุกพื้นที่  

นอกจากนี้ จะใช้ประโยชน์จากการที่ไทยเป็นประธานอาเซียนผนึกกำลังชาติสมาชิกอาเซียนและหารือกับประเทศจีน เพื่อให้นโยบาย 1 แถบ 1 เส้นทางเพื่อให้อาเซียนได้ประโยชน์มากที่สุด และมีนโยบายเดินไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งผนึกกำลังอาเซียนออกไปเจรจาต่อรองดึงนักลงทุนรายใหญ่ที่มีเทคโนโลยีสูงเข้ามาในภูมิภาคนี้ แทนที่จะแข่งกันลดแลกแจกแถมทำให้บริษัทขนาดใหญ่ต่างชาติได้ประโยชน์ แต่ชาติอาเซียนได้ประโยชน์น้อย

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า แผนการทำงานเร่งด่วนใน 100 วันแรกหลังการรับตำแหน่ง ได้แก่ จะเร่งสร้างหลักประกันให้คนไทยและต่างชาติมั่นใจว่าประเทศไทยมีความมั่นคงและสงบสุข เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจตามมา ส่วนเรื่องระยะสั้นจะทำพร้อม ๆ กับระยะกลาง คือ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขยายผลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนที่ตกสำรวจ และหาโอกาสสร้างอาชีพเพิ่มรายได้  เดินหน้าจัดทำ “บิ๊กดาต้า” เพื่อแก้ไขปัญหาลงลึกตอบโจทย์รายบุคคล รวมทั้งแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ  ช่วยเหลือชาวนา โดยสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวจากไร่ละ 1,500 บาท เป็นไร่ละ 2,000 บาท และเพิ่มพื้นที่จากไม่เกิน 12 ไร่ เป็น 20 ไร่ต่อราย และเพิ่มราคายางพาราเป็นกิโลกรัมละ 65 บาท เพิ่มผลผลิตภาคการเกษตรด้วยการสร้างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ส่วนแรงงาน จะเพิ่มทักษะเพื่อรายได้ ค่าจ้างที่เพิ่มภาคเอกชนโดยเฉพาะเอสเอ็มอีต้องอยู่ได้   


นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายที่จะทำในช่วง 100 วันแรกเมื่อเป็นรัฐบาลคือ จะเพิ่มกำลังซื้อกลุ่มกำลังซื้อหลัก เช่น เกษตรกร โดยเพิ่มราคาสินค้าเกษตรขณะที่ไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐมากนัก เช่น การให้ บมจ.ปตท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อผลผลิตจากพืชพลังงาน ด้วยการแก้ไขระเบียบการสำรองน้ำมัน จากเดิมสำรองน้ำมันปิโตรเลียมเปลี่ยนเป็นสำรองเอทานอลหรือไบโอดีเซล (บี100) ซึ่งจะช่วยเพิ่มราคาผลผลิตอ้อยและมันสำปะหลังและปาล์มน้ำมันได้ทันที พร้อมกับควบคุมการเพิ่มพื้นที่ปลูก และลดลงลงในอนาคต ส่วนภาครัฐจะเข้าไปสนับสนุนวิสาหกิจเหล่านี้ในเรื่องที่สามารถทำได้  

ส่วนการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม จะให้โรงงานอุตสาหกรรมเป้าหมายที่อยู่นอกเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับที่อยู่ในอีอีซี รวมทั้งช่วยเอสเอ็มอีปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ก่อน รวมทั้งประกาศลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดค่าครองชีพให้กับประชาชน  

นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายที่จะทำในช่วง 100 วันแรกเมื่อเป็นรัฐบาล คือ แก้ไขกฎกระทรวงต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า การทำธุรกิจ เช่น GRAP จะให้บริการถูกกฎหมาย รวมถึงชาวบ้านที่ทำโฮมสเตย์ จะแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคให้ชาวบ้านทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ จะจัดลำดับความสำคัญการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเน้นไปที่รากฐานเศรษฐกิจโดยให้หน่วยงานภาครัฐใช้สินค้าที่ผลิตขึ้นภายในประเทศก่อน เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงที่มีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านบาท เปลี่ยนมาเป็นสร้างมอเตอร์เวย์จะทำได้ทั่วประเทศและเงินยังอยู่ภายในประเทศเนื่องจากคนไทยทำได้เอง  

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์  ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า นโยบายที่จะทำในช่วง 100 วันแรกเมื่อเป็นรัฐบาล คือ เร่งเดินหน้า Open Government Data เพื่อให้เกิดการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล นำการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐขึ้นเว็บไซต์ และนำไปประมวลผลวิเคราะห์ได้ เพื่อให้ประชาชนทราบว่ารัฐบาลใช้ภาษีไปอย่างไรบ้าง คุ้มค่ามากน้อยเพียงใด และยังมีนโยบายที่จะเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ส่วนค่าจ้างขั้นต่ำ พรรคอนาคตใหม่ มีนโยบายที่จะสร้างความเท่าเทียมของประชาชน โดยเพิ่มสวัสดิการแห่งรัฐดีขึ้น ยอมรับว่าค่าแรงยังไม่พอกับค่าครองชีพแต่รัฐจะเพิ่มสวัสดิการให้ดีขึ้น เช่น การดูแลเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0-6 ปี เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 

ก่อนการเสวนา นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. นำเสนอ “ทิศทางอุตสาหกรรมไทย 2025” ว่า ทุกอุตสาหกรรมต้องเปลี่ยนแปลงโดยร่วมมือกับภาครัฐ สำหรับปัจจัยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็งมี 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1.สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายอุตสาหกรรม โดยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร่วมกับภาครัฐผ่าน กรอ.จังหวัด โดยอยากให้ประชุมอย่างน้อย 2 เดือนครั้ง เร่งจัดทำ Ease of Doing Business ของทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ เพื่อให้แข่งขันได้ 2.การเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันอุตสาหกรรมไทย โดยตั้งกองทุน Innovation Fund โดยผู้บริจาคเข้ากองนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ กองทุนนี้บริหารโดยภาคเอกชน ตั้งศูนย์บิ๊กดาต้าภาคอุตสาหกรรม บริหารโดยภาคเอกชน เดินหน้า Smart Agro จัดทำโซนนิ่งรัฐบาลสนับสนุนแต่ละพื้นที่โดยให้สหกรณ์การเกษตรบริหาร 3.ยกระดับเอสเอ็มอี และส่งเสริม Made in Thailand ตั้ง SME Venture Program รัฐช่วยเหลือด้านลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ จะต้องยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพมาตรฐานสากล โดยเอสเอ็มอีได้รับคูปองช่วยเหลือ จัดตั้งกองทุนผู้เชี่ยวชาญช่วยเอสเอ็มอี โดยรัฐให้เงินเดือนผู้ที่ขึ้นทะเบียน จัดการประชาสัมพันธ์สินค้าที่ผลิตในไทยทั้งในและต่างประเทศให้เกิดความเชื่อถือ เชื่อมั่นและส่งเสริมการตลาด โดยตั้งศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่พาณิชย์ธุรกิจ 

4.เสริมสร้างธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคม โดยส่งเสริมเอสเอ็มอีทำบัญชีเดียว ภาครัฐจัดทำซอฟแวร์ไปใช้ฟรีภาครัฐได้ภาษีคืนในอนาคต ผู้ประกอบการจะเข้ามาอยู่ในระบบ รัฐจัดให้มีการยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายนับ 100,000 ฉบับ กฎหมายไหนไม่จำเป็นต้องยกเลิก เดินหน้าปฏิรูปบุคลากรลดบุคลากรภาครัฐลง และส่งเสริมการพัฒนาและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า หรือ EV ยี่ห้อของคนไทย ซื้อรถแล้วสามารถลดหย่อนภาษีได้ 300,000-500,000 บาทต่อคัน หากไม่รีบทำใน 5 ปีนี้จะไม่ทันการ เพราะขณะนี้เวียดนามเดินหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว  

5.ยกระดับทักษะ ความรู้และคุณภาพชีวิตทรัพยากรมนุษย์ โดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต สนับสนุนด้วยการนำค่าใช้จ่ายหักภาษีได้ 2 เท่า ปรับการศึกษาให้เข้ากับภาคอุตสาหกรรม และเดินหน้า Pay by Skill หรือการจ่ายเงินตามทักษะฝีมือในงาน โดยทำรูปแบบทวิภาคีนำค่าใช้จ่ายนำนักศึกษาเข้ามาฝึกงานสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ พร้อมกันนี้จะต้องยกเลิกการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]