5 พรรคการเมืองโชว์นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมไทย

ไบเทค 18 มี.ค. –  5 พรรคประชันนโยบายเศรษฐกิจโชว์สมาชิก ส.อ.ท. ทั้งเพิ่มกำลังซื้อ ขยายผลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนที่ตกสำรวจ สำรองน้ำมันปิโตรเลียมเปลี่ยนเป็นสำรองเอทานอลหรือไบโอดีเซลบี 100 จัดทำ Open Government Data 


สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดเสวนาเรื่อง “ทิศทางอุตสาหกรรมไทย  SHAPING THAI INDUSTRY 2025” โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองนำเสนอแนวทางการพัฒนาทิศทางอุตสาหกรรมไทยให้กับกรรมการและสมาชิก ส.อ.ท.ทั่วประเทศ 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุแผนการทำงานเร่งด่วนใน 100 วันแรกหลังการรับตำแหน่งว่า จะเร่งดำเนินการ 2 ข้อ ได้แก่ 1.ต้องเติมกำลังซื้อให้กับคนในประเทศ เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยในกลุ่มเกษตรกรจะนำวิธีการประกันราคาสินค้าเกษตรที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำมามีระบบอยู่แล้วสามารถทำได้ทันที กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ประกันรายได้ โดยรัฐสนับสนุนให้มีรายได้ขั้นต่ำเดือนละ 10,000 บาท หรือ 120,000 บาทต่อปี ซึ่งใช้งบประมาณไม่มากและไม่กระทบเอกชน ส่วนกลุ่มคนจน จะเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 800 บาทต่อเดือน สามารถนำไปซื้อสินค้าร้านใดก็ได้ไม่ต้องซื้อเฉพาะร้านค้าที่กำหนด ทำให้เม็ดเงินกระจายไปทุกพื้นที่  

นอกจากนี้ จะใช้ประโยชน์จากการที่ไทยเป็นประธานอาเซียนผนึกกำลังชาติสมาชิกอาเซียนและหารือกับประเทศจีน เพื่อให้นโยบาย 1 แถบ 1 เส้นทางเพื่อให้อาเซียนได้ประโยชน์มากที่สุด และมีนโยบายเดินไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งผนึกกำลังอาเซียนออกไปเจรจาต่อรองดึงนักลงทุนรายใหญ่ที่มีเทคโนโลยีสูงเข้ามาในภูมิภาคนี้ แทนที่จะแข่งกันลดแลกแจกแถมทำให้บริษัทขนาดใหญ่ต่างชาติได้ประโยชน์ แต่ชาติอาเซียนได้ประโยชน์น้อย

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า แผนการทำงานเร่งด่วนใน 100 วันแรกหลังการรับตำแหน่ง ได้แก่ จะเร่งสร้างหลักประกันให้คนไทยและต่างชาติมั่นใจว่าประเทศไทยมีความมั่นคงและสงบสุข เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจตามมา ส่วนเรื่องระยะสั้นจะทำพร้อม ๆ กับระยะกลาง คือ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขยายผลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนที่ตกสำรวจ และหาโอกาสสร้างอาชีพเพิ่มรายได้  เดินหน้าจัดทำ “บิ๊กดาต้า” เพื่อแก้ไขปัญหาลงลึกตอบโจทย์รายบุคคล รวมทั้งแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ  ช่วยเหลือชาวนา โดยสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวจากไร่ละ 1,500 บาท เป็นไร่ละ 2,000 บาท และเพิ่มพื้นที่จากไม่เกิน 12 ไร่ เป็น 20 ไร่ต่อราย และเพิ่มราคายางพาราเป็นกิโลกรัมละ 65 บาท เพิ่มผลผลิตภาคการเกษตรด้วยการสร้างสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ส่วนแรงงาน จะเพิ่มทักษะเพื่อรายได้ ค่าจ้างที่เพิ่มภาคเอกชนโดยเฉพาะเอสเอ็มอีต้องอยู่ได้   


นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายที่จะทำในช่วง 100 วันแรกเมื่อเป็นรัฐบาลคือ จะเพิ่มกำลังซื้อกลุ่มกำลังซื้อหลัก เช่น เกษตรกร โดยเพิ่มราคาสินค้าเกษตรขณะที่ไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐมากนัก เช่น การให้ บมจ.ปตท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อผลผลิตจากพืชพลังงาน ด้วยการแก้ไขระเบียบการสำรองน้ำมัน จากเดิมสำรองน้ำมันปิโตรเลียมเปลี่ยนเป็นสำรองเอทานอลหรือไบโอดีเซล (บี100) ซึ่งจะช่วยเพิ่มราคาผลผลิตอ้อยและมันสำปะหลังและปาล์มน้ำมันได้ทันที พร้อมกับควบคุมการเพิ่มพื้นที่ปลูก และลดลงลงในอนาคต ส่วนภาครัฐจะเข้าไปสนับสนุนวิสาหกิจเหล่านี้ในเรื่องที่สามารถทำได้  

ส่วนการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม จะให้โรงงานอุตสาหกรรมเป้าหมายที่อยู่นอกเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับที่อยู่ในอีอีซี รวมทั้งช่วยเอสเอ็มอีปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ก่อน รวมทั้งประกาศลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดค่าครองชีพให้กับประชาชน  

นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายที่จะทำในช่วง 100 วันแรกเมื่อเป็นรัฐบาล คือ แก้ไขกฎกระทรวงต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า การทำธุรกิจ เช่น GRAP จะให้บริการถูกกฎหมาย รวมถึงชาวบ้านที่ทำโฮมสเตย์ จะแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคให้ชาวบ้านทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ จะจัดลำดับความสำคัญการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเน้นไปที่รากฐานเศรษฐกิจโดยให้หน่วยงานภาครัฐใช้สินค้าที่ผลิตขึ้นภายในประเทศก่อน เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงที่มีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านบาท เปลี่ยนมาเป็นสร้างมอเตอร์เวย์จะทำได้ทั่วประเทศและเงินยังอยู่ภายในประเทศเนื่องจากคนไทยทำได้เอง  

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์  ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า นโยบายที่จะทำในช่วง 100 วันแรกเมื่อเป็นรัฐบาล คือ เร่งเดินหน้า Open Government Data เพื่อให้เกิดการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล นำการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐขึ้นเว็บไซต์ และนำไปประมวลผลวิเคราะห์ได้ เพื่อให้ประชาชนทราบว่ารัฐบาลใช้ภาษีไปอย่างไรบ้าง คุ้มค่ามากน้อยเพียงใด และยังมีนโยบายที่จะเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ส่วนค่าจ้างขั้นต่ำ พรรคอนาคตใหม่ มีนโยบายที่จะสร้างความเท่าเทียมของประชาชน โดยเพิ่มสวัสดิการแห่งรัฐดีขึ้น ยอมรับว่าค่าแรงยังไม่พอกับค่าครองชีพแต่รัฐจะเพิ่มสวัสดิการให้ดีขึ้น เช่น การดูแลเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0-6 ปี เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 

ก่อนการเสวนา นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. นำเสนอ “ทิศทางอุตสาหกรรมไทย 2025” ว่า ทุกอุตสาหกรรมต้องเปลี่ยนแปลงโดยร่วมมือกับภาครัฐ สำหรับปัจจัยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็งมี 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1.สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายอุตสาหกรรม โดยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร่วมกับภาครัฐผ่าน กรอ.จังหวัด โดยอยากให้ประชุมอย่างน้อย 2 เดือนครั้ง เร่งจัดทำ Ease of Doing Business ของทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ เพื่อให้แข่งขันได้ 2.การเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันอุตสาหกรรมไทย โดยตั้งกองทุน Innovation Fund โดยผู้บริจาคเข้ากองนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ กองทุนนี้บริหารโดยภาคเอกชน ตั้งศูนย์บิ๊กดาต้าภาคอุตสาหกรรม บริหารโดยภาคเอกชน เดินหน้า Smart Agro จัดทำโซนนิ่งรัฐบาลสนับสนุนแต่ละพื้นที่โดยให้สหกรณ์การเกษตรบริหาร 3.ยกระดับเอสเอ็มอี และส่งเสริม Made in Thailand ตั้ง SME Venture Program รัฐช่วยเหลือด้านลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ จะต้องยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพมาตรฐานสากล โดยเอสเอ็มอีได้รับคูปองช่วยเหลือ จัดตั้งกองทุนผู้เชี่ยวชาญช่วยเอสเอ็มอี โดยรัฐให้เงินเดือนผู้ที่ขึ้นทะเบียน จัดการประชาสัมพันธ์สินค้าที่ผลิตในไทยทั้งในและต่างประเทศให้เกิดความเชื่อถือ เชื่อมั่นและส่งเสริมการตลาด โดยตั้งศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่พาณิชย์ธุรกิจ 

4.เสริมสร้างธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคม โดยส่งเสริมเอสเอ็มอีทำบัญชีเดียว ภาครัฐจัดทำซอฟแวร์ไปใช้ฟรีภาครัฐได้ภาษีคืนในอนาคต ผู้ประกอบการจะเข้ามาอยู่ในระบบ รัฐจัดให้มีการยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายนับ 100,000 ฉบับ กฎหมายไหนไม่จำเป็นต้องยกเลิก เดินหน้าปฏิรูปบุคลากรลดบุคลากรภาครัฐลง และส่งเสริมการพัฒนาและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า หรือ EV ยี่ห้อของคนไทย ซื้อรถแล้วสามารถลดหย่อนภาษีได้ 300,000-500,000 บาทต่อคัน หากไม่รีบทำใน 5 ปีนี้จะไม่ทันการ เพราะขณะนี้เวียดนามเดินหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว  

5.ยกระดับทักษะ ความรู้และคุณภาพชีวิตทรัพยากรมนุษย์ โดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต สนับสนุนด้วยการนำค่าใช้จ่ายหักภาษีได้ 2 เท่า ปรับการศึกษาให้เข้ากับภาคอุตสาหกรรม และเดินหน้า Pay by Skill หรือการจ่ายเงินตามทักษะฝีมือในงาน โดยทำรูปแบบทวิภาคีนำค่าใช้จ่ายนำนักศึกษาเข้ามาฝึกงานสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ พร้อมกันนี้จะต้องยกเลิกการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]