เอกชนหนุนรัฐให้ความรู้บริโภคน้ำตาลอย่างสมดุล

กรุงเทพฯ  28  ส.ค. – อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายสนับสนุนภาครัฐสร้างความตระหนักให้ผู้บริโภคกินหวานให้พอดีต่อร่างกาย ชี้เป็นทางออกแก้ปัญหาลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวานยั่งยืนกว่า พร้อมระบุหากภาครัฐเดินหน้าจัดเก็บภาษีจริงต้องสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกฝ่าย


นายสิริวุทธิ์  เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์และสันทนาการ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า จากนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้ประชาชนลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวาน โดยมีการมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว ซึ่งโดยหลักการนั้นทางอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเห็นด้วยที่ภาครัฐจะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวานอย่างสมดุลเพื่อไม่ให้เกิดโทษต่อร่างกายและนำไปใช้เป็นข้อมูลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารอย่างสมดุล และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแต่ละวัน

ทั้งนี้ ในการประชุมระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องประเด็นนี้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนพร้อมสร้างความเข้าใจแก่ทุกฝ่ายว่าแต่ละคนมีความต้องการสารอาหารที่ให้พลังงานระดับแตกต่างกัน ผู้ที่ใช้แรงงานมากย่อมต้องการอาหารที่ให้พลังงานมากขึ้น และน้ำตาลเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย และไม่ได้เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ หรือโรคที่ไม่ติดต่อ ดังนั้น หากผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจด้านโภชนาการก็จะสามารถเลือกรับประทานเครื่องดื่มที่มีความหวานได้ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงต้องหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี


อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐมีแนวคิดจัดเก็บภาษีความหวานจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลก็จะเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และทำให้เกิดการสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อการบริโภค เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลว่าเป็นพิษต่อร่างกายหรือเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนนำไปสู่การลดการปริมาณบริโภคน้ำตาล จนอาจส่งผลให้ร่างกายขาดความสมดุลและส่งผลกระทบต่อสุขภาพในอีกทางหนึ่งได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงร่างกายก็มีความต้องการน้ำตาลเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานแต่ละวัน

“อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าน้ำตาลเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและไม่ใช่ต้นเหตุที่ก่อให้เกิดโรค หากบริโภคอย่างสมดุลกับความต้องการของร่างกาย ดังนั้น เรามีจุดยืนว่าการให้ความรู้ความเข้าใจด้านการบริโภคที่ถูกต้องจะเป็นแนวทางทางการแก้ปัญหาที่ดีระยะยาวช่วยให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวานได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐมองว่า การจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นวิธีปฏิบัติที่จะทำให้ประชาชนสามารถลดการบริโภคลงได้จริง ก็ควรจัดเก็ษภาษีอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม และสามารถสร้างการยอมรับแก่ทุกฝ่าย พร้อมกับมีมาตรการส่งเสริมสุขภาพและให้ความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้องควบคู่กันไปด้วย” นายสิริวุทธิ์ กล่าว

 


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.