เกษตรกรเฮ! กฟก.รับซื้อหนี้กว่า 121 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 15 มี.ค. –  กลุ่มเกษตรกรชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ เดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากกองทุนฟื้นฟูฯ รับซื้อหนี้จากสหกรณ์เจ้าหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยกว่า 121 ล้านบาท  


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เฉพาะกิจ กล่าวว่า กฟก.เฉพาะกิจมีมติช่วยเหลือเกษตรกรลูกหนี้สหกรณ์การเกษตร ลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ และนิติบุคคลต่าง ๆ โดยการรับซื้อหนี้มาบริหารจัดการ เดินทางมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงเกษตรฯ เป็นเวลา 56 วัน เพื่อเรียกร้องให้ช่วยชำระหนี้แทน รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหนี้ชะลอการดำเนินคดีเกษตรกรออกไป 2 ปี เพื่อลดปัญหาการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายณรงค์ อ่อนสอาด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายดลเดช พัฒนรัฐ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือร่วมกับ กฟก. สหกรณ์การเกษตร ธนาคารพาณิชย์ และนิติบุคคลเจ้าหนี้ จนได้ข้อยุติว่า กฟก.จะชำระหนี้แทนเกษตรกรลูกหนี้ โดยเจ้าหนี้ยอมขายหนี้ของเกษตรกร 131 ราย เป็นเงินต้นส่วนที่คงค้างและคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 5 ปี ไม่เกินร้อยละ 7.5 รวม 121,451,941.93 บาท จากนั้นให้เกษตรกรลูกหนี้มาทำสัญญาชำระหนี้ กฟก.แทนดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 -1.50 ต่อปี โดยโอนหลักทรัพย์ค้ำประกันมาเป็นของ กฟก. 


นายกฤษฎา กล่าวว่า กฟก.จะเข้าไปพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรเหล่านี้ เพื่อให้มีรายได้ดำรงชีพและสามารถชำระหนี้คืนได้ เมื่อชำระหนี้ครบตามสัญญาภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี กฟก.จะคืนหลักทรัพย์ให้ นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้จัดการหนี้ลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์และนิติบุคคล อีก 10 ราย มูลหนี้รวม 3,237,124.54 บาท และชะลอการดำเนินคดีกับเกษตรกรออกไป 2 ปี เพื่อลดปัญหาการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ การชำระหนี้แทนเกษตรกรครั้งนี้ กฟก.จะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 15 วัน หรือไม่เกิน 31 มีนาคม 2562 เพื่อให้สถาบันเจ้าหนี้สามารถปิดบัญชีลูกหนี้ทันปีงบประมาณ 2561 ของสหกรณ์การเกษตร

ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรต่างดีใจที่ได้รับความช่วยเหลือจากปัญหาหนี้สิน รวมทั้งรักษาที่ดินทำกินซึ่งกำลังจะถูกยึดและขายทอดตลาดไว้ได้ยุติการชุมนุมทันที ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ประสานกระทรวงคมนาคมขอรถเพื่อนำกลุ่มเกษตรกรกลับภูมิลำเนา

สำหรับข้อมูลขึ้นทะเบียนของเกษตรกรสมาชิก 518,992 ราย ยอดหนี้รวม 88,495 ล้านบาท กฟก.ชำระหนี้แทนให้เกษตรกรสมาชิกไปแล้วทั้งสิ้น 29,219 ราย 29,270 บัญชี เป็นเงินกว่า 6,091,709,114.26 บาท เป็นลูกหนี้สหกรณ์ 21,362 ราย 21,392 บัญชี จำนวนเงิน 3,275,141,572.32 บาท รักษาที่ดินทำกิน 4,244 แปลง 33,156 ไร่ 2 งาน 12.7 ตารางวา ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการรักษาที่ดินทำกินให้เกษตรกร สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง