พรรคพลังประชารัฐ 11 มี.ค. – “อนุชา” จวกเพื่อไทยผลิตวาทกรรมการเมือง ดิสเครดิต “พล.อ.ประยุทธ์” เชื่อประชาชนเบื่อหน่าย แนะเอาเวลาไปเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ อัดอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ เคลื่อนไหวหลังถูกยุบพรรค ไร้ค่า นำการเมืองสู่ความขัดแย้ง
นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการลงพื้นที่ภาคอีสานว่า การลงพื้นที่ของพรรคพลังประชารัฐ ประสบความสําเร็จเป็นอย่างมาก และได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเกินความคาดหมาย ซึ่งตนเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเกิดเซอร์ไพรส์กับพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน เพราะจะประสบความสำเร็จในพื้นที่ภาคอีสาน อย่างเหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะนโยบายต่าง ๆ ที่ประชาชนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น บัตรประชารัฐ สินค้าเกษตร มารดาประชารัฐ พักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ซึ่งเป็นนโยบายที่โดนใจประชาชนส่วนมาก เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังจะมีการเปิดนโยบายการศึกษา ที่ยอมรับว่า ดีมากๆ ซึ่งจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ และถือเป็นการพลิกโฉมการศึกษาของประเทศไทย
นายอนุชา กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกแคมเปญ เอาลุงคืนไป เอาเงินในกระเป๋าคืนมา ว่า เป็นวาทกรรมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่รู้จะสู้อะไรกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว เนื่องจากนโยบายปัจจุบันก็สู้พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ ก็คงคิดได้แต่เพียงวาทกรรมทางการเมืองที่จะมาเอาชนะกัน ซึ่งตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนรู้ทัน และจะชื่นชอบกับพรรคที่เสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ เพราะวันนี้ประชาชนรอฟังนโยบาย ดี ๆ จากพรรคการเมืองมากกว่า ตนคิดว่าตอนนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเดินหลงทาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังยุบพรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ตั้งกลุ่มก้าวต่อไป เพื่อประชาธิปไตย โดยเตรียมเดินสาย ทั่วประเทศเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. พรรคพลังประชารัฐมีความกังวลหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดถึงคนกลุ่มนี้เลย สิ่งที่คนกลุ่มดังกล่าวนำเสนอ นั้น ไม่มีประโยชน์และไร้ค่า เพราะเป็นเรื่อง ที่นำการเมืองไปสู่ความขัดแย้ง ตอนนี้ตนเชื่อว่าประชาชนเข้าใจหมดแล้ว ว่าการนำการเมืองไปสู่ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่ไร้ค่าและไร้ประโยชน์ และวันนี้สังคมได้รับทราบแล้วว่าคนที่มีความรู้ความสามารถมีลักษณะ เป็นเช่นใด ไม่ใช่มีความรู้ความสามารถแค่ผลิตวาทกรรม
“จึงอยากถามว่า ที่ผ่านมาคุณเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชนบ้าง รวมถึงเคยคิดหรือไม่ว่าจะทำให้ประชาชนก้าวพ้นความยากจน ซึ่งตนเคยเห็นแต่พวกคุณพูดเรื่องเหล่านี้ทั้งชีวิต และการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกกังวล และคิดว่าเป็นสิ่งที่ไร้ค่า …ไร้ค่าในแผ่นดิน” นายอนุชากล่าว.-สำนักข่าวไทย
