อำนาจเจริญ 8 มี.ค.- หนุ่มวัย 18 ปี ควบกระบะหลุดโค้ง ชนเสาบ้านหลังแรก ก่อนหลุดเข้าไปชนบ้านที่อยู่ติดกันอีกหลังจนพังยับ ด.ญ.วัย 14 ปี ถูกทับขาติดอยู่ใต้ท้องรถ ช่วยได้รอดตายหวุดหวิด ตรวจสอบพบในรถฝั่งคนขับมีกระป๋องเบียร์ตกอยู่ 1 กระป๋อง
เมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา (8 มี.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองอำนาจเจริญ รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนบ้านเรือนริมถนนสายหลักอรุณประเสริฐ ขาออกตัวเมืองอำนาจเจริญ ไปยัง อ.ปทุมราชวงศา บ้านดอนแดง ม.10 ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอำนาจเจริญ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน บย 5269 พระนครศรีอยุธยา สภาพพังยับเยินทั้งคัน ชนเข้าไปในบ้านจนเสาบ้านล้มไป 2 ต้น บริเวณด้านหน้าบ้านและด้านข้างพังยับเยินจากการถูกชน พบเด็กหญิงทราบชื่อคือ ด.ญ.วิชญาดา ฐิตะโพธิ์ อายุ 14 ปี ขาข้างซ้ายติดอยู่ที่บริเวณใต้ท้องรถ มีผู้เห็นเหตุการณ์นำแม่แรงมายกรถขึ้นไว้แล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำตัวเด็กหญิงคนออกมา ขณะที่คนขับรถทราบชื่อภายหลังคือ นายสุทธิพงษ์ บุญสุภาพ อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวออกมา ทั้ง 2 คนถูกส่งตัวไป รพ.อำนาจเจริญ
สอบถามนายสิริชัย สิทธิเดช ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บ้านตรงข้ามที่เกิดเหตุ บอกว่าขณะที่ตนกำลังขับรถกลับเข้าบ้าน จู่ๆ ได้ยินเสียงดังขึ้นเหมือนรถพุ่งชนอะไรบางอย่างจึงลงจากรถและมองกลับไปดู ก็พบว่าเห็นฝุ่นควันลอยฟุ้งเต็มบ้านหลังดังกล่าว และรถกระบะคันก็เข้าไปอยู่ภายในบ้านหลังแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปดู เห็นเด็กผู้หญิงขาติดอยู่ใต้ท้องรถ โชคดีที่เด็กยังมีสติและไม่ถูกรถทับทั้งตัว จึงรีบนำแม่แรงมาช่วยยกรถขึ้น ก่อนที่จะช่วยกันนำตัวเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวออกมา
ขณะที่คนในครอบครัวยังอยู่ในอาการตกใจและงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งยังเป็นห่วงอาการของลูกสาวว่าเป็นยังบ้าง จึงไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ
ร.ต.อ.ศุภากร พรมรักษ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุคาดว่ารถกระบะคันดังกล่าวจะวิ่งมาด้วยความเร็วสูงก่อนที่เสียหลักแหกโค้งพุ่งมาชนป้ายที่ข้างถนน ก่อนที่จะลากยาวพุ่งไปชนเสาหลังคาบ้านที่อยู่ก่อนบ้านที่เกิดเหตุจนหลังคาพังลง และพุ่งเข้าไปจนบ้านหลังดังกล่าวจนเสียหายพังยับ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยพบว่าภายในรถมีกระป๋องเบียร์ตกอยู่ 1 กระป๋องภายในรถฝั่งคนขับ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์จากคนขับด้วย รวมถึงจะเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์และครอบครัวของผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย