กทม. 7 มี.ค. – หลังคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ สิ่งที่ต้องจับตาคงหนีไม่พ้นคะแนนเสียงของพรรคว่าเทไปทิศทางใด และจะส่งผลกระทบต่อยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย” หรือไม่
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ พรรคน้องใหม่ที่มีอายุเพียง 4 เดือน ถือเป็นการสิ้นสุดสภาพความเป็นพรรคการเมือง เท่ากับว่าการเลือกตั้งในรอบ 9 ปี จะไม่มีชื่อพรรคไทยรักษาชาติ ที่ส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 175 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 108 คนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการหายไปของผู้สมัครย่อมส่งผลต่อยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย” ของพรรคเพื่อไทย เพราะใน 350 เขตเลือกตั้ง จะมีมากถึง 100 เขตเลือกตั้ง ที่ไม่มี ส.ส.ของพรรคไทยรักษาชาติและพรรคเพื่อไทยลงแข่งขัน ซึ่งหมายถึงสิ่งที่จะหายไปไม่ใช่เพียงจำนวน ส.ส.เขตแต่รวมถึง ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย
แหล่งข่าวระดับแกนนำจากพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยว่า เมื่อพรรคถูกยุบ แต่ยุทธศาสตร์ที่วางไว้จะต้องเดินต่อ ซึ่งสามารถใช้ได้หลายแนวทาง แต่จะไม่ใช้วิธีการโหวตโน เพราะเป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสม แต่จะใช้การถ่ายโอนคะแนน หรือนำไปช่วยกับผู้สมัครจากพรรคการเมืองที่อยู่ฝั่งประชาธิปไตย โดยไม่เจาะจงเฉพาะพรรค ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้สมัครที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ โดยพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อม ทั้งความเหมาะสมของตัวผู้สมัครที่จะถ่ายโอนคะแนนให้และโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้ง
ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า การหายไปของจำนวน ส.ส.ที่คาดว่าจะมีประมาณ 30-40 คน ส่งผลต่อยุทธศาสตร์ที่วางไว้ เนื่องจากไม่สามารถเก็บคะแนนเต็มได้ทั้งหมด วิบากกรรมที่เกิดขึ้นกับพรรคไทยรักษาชาติมีส่วนสำคัญที่จะส่งผลกระทบให้พรรคเพื่อไทยต้องตกไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้
เช่นเดียวกับนักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ที่เห็นตรงกันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อยุทธศาสตร์ หากผู้สมัครในพื้นที่ที่มีการถ่ายโอนคะแนนไม่สามารถแข่งขันผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐได้ เท่ากับการสูญเสียคะแนนเสียง หรือแม้มีการถ่ายโอน ก็ไม่สามารถผนึกกำลังกันได้แน่นแฟ้นในการต่อสู้กับพรรคการเมืองที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ด้านนักวิชาการด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า แม้ไทยรักษาชาติถูกยุบ แต่คะแนนเสียงของผู้สนับสนุนไม่ได้หายไป เพราะยังตกไปอยู่กับพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เดียวกัน แต่หลังถูกยุบ ควรเยียวยาผู้สมัครด้วย
ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ยังไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะกว่าถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม พรรคการเมืองยังสามารถปรับกลยุทธ์ชิงความได้เปรียบจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนที่จะมีการหย่อนบัตร . – สำนักข่าวไทย