ศธ. 29 ส.ค.- ศธ.ย้ำแนวคิดเปลี่ยนระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก่อนพูดคุยรายละเอียดศุกร์นี้ รมว.ศธ.แนะใส่มหาวิทยาลัยพิจารณาคะแนนโอเน็ตและเกรดเฉลี่ยเพื่อรับเด็กเข้าเรียนด้วย ด้านปลัดศธ.คาด พ่อแม่จ่ายค่าสอบให้ลูกเพียงครั้งเดียวไม่เกิน 2,000 บาท
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการปรับระบบสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดม ศึกษา ว่าหลักคิดตนคือเมื่อเห็นภาระของเด็กและผู้ปกครอง ความเหลื่อมล้ำของสังคม และไม่ได้ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยจะได้นักศึกษาที่ตรงตามความต้องการ ซึ่งจากเหตุผลทั้งหมดมาหาวิธีใหม่ร่วมกัน โดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ก็ได้เสนอแนวคิดเปลี่ยนระบบแอดมิชชั่นส์เป็นระบบเอนทรานซ์แบบใหม่ที่ดีกว่า โดยในวันศุกร์นี้ (2 ก.ย.) จะนัดหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยราชมงคลเพื่อ ดูรายละเอียดกัน
ทั้งนี้ ข้อกังวลของนักวิชาการ ส่วนใหญ่เห็นด้วยแต่มหาวิทยาลัยขนาดเล็กเกรงว่า เด็กจะไม่มาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของตน แต่หากคิดแบบนั้นการศึกษาไทยคงไม่ไปไหน มหาวิทยาลัยจึงต้องสร้างจุดแข็งของตนเอง จะเน้นปริมาณไม่สนใจคุณภาพอย่างเดิมไม่ได้ , ตอบข้อถามถึงประเด็นการขอความร่วมมือของมหาวิทยาลัย ในการใช้ระบบสอบรูปแบบเดียวกัน ที่อาจเป็นไปได้ยาก เพราะมหาวิทยาลัยมีความเป็นนิติบุคคลสูง มีกฎหมายเป็นของตนเองนั้น ตนเข้าใจและในอนาคตอาจออกแนวทางขอความร่วมมือผ่านกฎกระทรวงหรือมติคณะรัฐมนตรี แต่ตนต้องขอบคุณมหาวิทยาลัย ที่ตอนนี้ทุกแห่งตระหนักร่วมกันแก้ปัญหาเด็กวิ่งรอกสอบ
ส่วนระบบเคลียร์ริ่งเฮ้าส์ ซึ่ง ทปอ.เป็นผู้ดูแล ไม่มีการเก็บคะแนนโอเน็ต และจะทำให้เด็กไม่สนใจเรียนในชั้นเรียน ส่วนตัวมองว่า อยากให้มีการเก็บคะแนนตรงนี้ แต่รายละเอียดขึ้นอยู่การพูดคุยของทปอ.อีกครั้ง
ขณะที่มหาวิทยาลัยอาจมีเกณฑ์การใช้คะแนนสอบที่แตกต่างกัน เช่น อาจใช้คะแนนโอเน็ต GAT/PAT 9 วิชาสามัญ หรือเกรดเฉลี่ย(GPAX) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด ซึ่งหลักเกณฑ์ทั้งหมดมหาวิทยาลัยจะต้องทำคู่มือให้แล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2560ว่าสาขาวิชา/คณะ ในมหาวิทยาลัยของตนใช้คะแนใดยื่นบ้าง โดยตนให้ความสำคัญโดยเฉพาะเกณฑ์การคัดเลือกครูของคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาต้องพัฒนามาตรฐานหลักสูตรใหม่ ผลิตครูให้พร้อมใช้งานได้เลย เพราะแต่ละปีผลิตบัณฑิตออกมาจำนวนมาก เรียนไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีงานทำหรือไม่ อย่างสิงคโปร์มีมหาวิทยาลัยเดียว ผลิตครูได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีแนวคิดที่จะเปิดมหาวิทยาลัยระบบปิดเฉพาะด้านผลิตคนได้ตรงความต้องการประเทศ
ด้านนพ.กำจร ตติยกวี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทยว่า ระบบการสอบใหม่นี้ รมว.ศึกษาธิการให้ชื่อใหม่ว่า ‘เอนทรานซ์ 4.0’ เป็นการผสมผสานเอาข้อดีระบบเอนทรานซ์แบบเก่าและระบบแอดมิชชั่นส์มาไว้ด้วยกัน เช่น การสอบพร้อมกันรอบเดียว ต้องจบการศึกษาก่อนถึงจะสอบ ให้เฉพาะนักเรียนชั้นม.6 สอบต่างจากแอดมิชชั่นส์ที่ให้นักเรียนชั้นม.5 สอบด้วย
ส่วนการที่มหาวิทยาลัยจะขอเปิดสอบโดยตรงนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้ในสาขาวิชาที่ต้องสอบเฉพาะ เช่นคณะสถาปัตยกรรมที่ต้องสอบเขียนรูป แต่คงอนุญาตให้จัดสอบในห้วงเวลาเดียวกับการเปิดสอบ GATPAT หรือ 9 วิชาสามัญด้วย เพื่อให้นักเรียนสอบพร้อมกันทีเดียว ส่วนค่าใช้จ่ายในการสอบ ตนยื่นแนวคิดว่าคงไม่เกิน 2,000 บาท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสมัครสอบ ยื่นคะแนนรอบ1 และรอบ 2 หลังจากนี้จะเชิญมาวิทยาลัยมาคุยเพื่อรับทราบและปรับรายละเอียดร่วมกัน ก่อนออกเป็นคู่มือให้แล้วเสร็จในเดือนเมษายน และพัฒนาระบบเคลียร์ริ่งให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ทุกมหาวิทยาลัย.-สำนักข่าวไทย