คลังเตรียมเสนอ ครม.คงภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 อีก 1 ปี

รร.ดุสิตฯ  29  ส.ค. – กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.คงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 อีก 1 ปี พร้อมดึงเอกชนร่วมทำวิจัยหักภาษีได้ 3 เท่า ยอมรับบาทแข็งค่าเกินไปกระทบเศรษฐกิจ  ระบุ ธปท.ขณะนี้ดูแลได้ในระดับพอใจ


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ไว้ที่ร้อยละ 7 ต่อไปอีก 1 ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายนนี้ เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตได้ตามคาด

ทั้งนี้  นายอภิศักดิ์  กล่าวในงานสัมมนาสมาคมการค้าประจำปี 2559 เรื่อง “มาตรการส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายด้าน จึงส่งผลต่อจีดีพีของประเทศ ทำให้จีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวร้อยละ 3.2 ไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 3.5 และไตรมาส 3 คาดว่าจะขยายเท่ากันหรือมากกว่าไตรมาส 2  เนื่องจากดัชนีหลายตัวดีขึ้น สำหรับตัวเลขการส่งออกยอมรับชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา จึงต้องเปลี่ยนมาเน้นพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศผ่านการปฏิรูปเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ และหากค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปย่อมกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจ ธปท.จึงต้องดูแลให้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับคู่แข่ง  มองว่าค่าเงินบาทในปัจจุบันเคลื่อนไหวระดับที่เหมาะสม


นายอภิศักดิ์  กล่าวว่า  รัฐบาลได้ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เนื่องจากปัจจุบันไทยมีงบด้านวิจัยและพัฒนาเพียงร้อยละ 0.4 ขณะที่เกาหลีสูงถึงร้อยละ 2 จึงทำให้ก้าวข้ามจากประเทศขายแรงงานมาเป็นเศรษฐกิจบนพื้นฐานเทคโนโลยี  รัฐบาลไทยจึงออกมาตรการให้เอกชนนำค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยหักลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า  นอกจากนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างร่างกฎหมายเพิ่ม หากเอกชนมีส่วนร่วมในการทำวิจัยและพัฒนา  หลายบริษัทสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกัน ด้วยการแยกออกเป็น 5 กลุ่ม  เช่น การทำวิจัยด้านเกษตร ด้านนวัตกรรเทคโนอาหาร ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ด้านอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่ม

“แนวทางดังกล่าวเพื่อเปิดโอกาสให้หลายหน่วยงานทำวิจัยร่วมกันแล้วนำค่าใช้จ่ายตามสัดส่วนที่ออกค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กมีโอกาสได้ทำวิจัย เช่น การวิจัยเรื่องข้าว มีหลายหน่วยงานออกค่าใช้จ่ายจ้างนักวิจัย หน่วยงานออกค่าใช้จ่ายมากหักภาษีได้มาก แต่มีโอกาสให้รายเล็กรายน้อยได้มีโอกาสทำวิจัย การวิจัยจึงมีทั้งบริษัทเอกชนรายใหญ่เป็นแกนนำ การวิจัยโดยร่วมมือจากนักวิจัยจากหน่วยงานของรัฐบาล สวทช.,วว.  การวิจัยผ่านร่วมกับนักวิจัยมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดการวิจัยตามความต้องการ และผลักดันให้การวิจัยนำไปใช้อย่างจริงจัง และยังทำให้ภาคเอกชนได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น” นายอภิศักดิ์ กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรม S-Curve ใหม่ ต้องการผลักดันเอกชนออกไปตั้งฐานการผลิตในเขตระเบียงเขตเศรษฐกิจภาตตะวันออก (EEC) เพื่อให้เป็นแหล่งดึงดูดการลงทุน มีสนามบิน ท่าเรือทันสมัย สิทธิประโยชน์ทางภาษีหลากหลายผ่าน BOI Plus  รัฐบาลต้องการผลักดันให้เอกชนลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว  รัฐบาลต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรม 10 กลุ่มเป้าหมาย   ที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมการลงทุน เพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบิน ต้องการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังรองรับสินค้า เพื่อส่งต่อออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน CLMV  หากท่าเรือแหลมฉบังพร้อมต้องเร่งลงมือลงทุนก่อน หากต่างชาติเข้ามาแล้วจะได้โอกาสก่อนเพื่อนบ้าน จึงต้องการสร้างพื้นฐานที่ต้องการให้เติบโตในอนาคต  ยอมรับสภาพคล่องในประเทศสูงมาก หากกู้เงินลงทุนระยะยาว เช่น หุ้นกู้ระยะเวลา 10 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 3  และหากลงทุนในช่วงรัฐบาลส่งเสริมให้ลงทุนช่วงนี้หักภาษีได้ 2 เท่า โดยเป็นโครงการที่ไม่จำเป็นต้องรับการส่งเสริมจากบีโอไอ โดยต้องลงทุนเพียงสิ้นปีนี้  ซึ่งเหลือเวลาอีก 4 เดือนเท่านั้น ผ่านการลงทุนเครื่องมือ เครื่องจักร และขยายกิจการ  เมื่อเศษฐกิจโลกฟื้นตัวคาดว่าไทยจะเป็นประเทศแรกที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างโดดเด่น


นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเตรียมหารือนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนและมาตรการในการเข้าไปดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวนจนกระทบกับผู้ส่งออก ยอมรับว่าอัตราแลกเปลี่ยนระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มีความเหมาะสม ทั้งนี้ หากค่าเงินบาทไม่ผันผวน หรือแข็งค่าจนกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน คาดว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 0-2  แต่หากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าการส่งออกของไทยปีนี้จะติดลบได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ธปท.จะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น เห็นได้จากนักลงทุนจากต่างประเทศและไทยเข้ามาลงทุนมากขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง และสถานการณ์ภัยแล้งไม่มีผลกระทบเศรษฐกิจมากนัก แม้ว่าราคาสินค้าเกษตรในขณะนี้ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำก็ตาม จึงมองว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.5  และเพื่อให้ภาคเอกชนขยายการลงทุนได้มากขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลออกมาตรการทางด้านภาษี เพื่อสนับสนุนให้เอกชนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การสนับสนุนให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี