กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- เศร้าใจ! หญิงป่วยอัมพาตครึ่งตัวถูกทิ้งริมถนนย่านดอนเมือง ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วย ตำรวจตามตัวสามีจนเจอ อ้างภรรยากระโดดลงจากรถหนีไปเอง
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (5 มี.ค.) สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี ว่ามีชายขับรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าสีชมพู ทะเบียนเชียงราย นำหญิงอายุประมาณ 30 ปี ลักษณะเป็นอัมพาตครึ่งตัวมาทิ้งไว้บริเวณ ซ.เทิดราชัน 19 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบประชาชนกำลังช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว ซึ่งนั่งอยู่บนทางเท้า ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ปริศนา เทพาชมพู อายุ 38 ปี พักอยู่ใน ซ.นาวงพัฒนา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันอุ้มขึ้นรถสายตรวจมาการสอบสวนต่อที่ สน.ดอนเมือง
ต่อมานางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เดินทางมาที่ สน.ดอนเมือง กล่าวว่า มาประสานขอรับตัว น.ส.ปริศนา ไปพักอาศัยชั่วคราวที่มูลนิธิฯ ใน จ.ปทุมธานี ก่อนดำเนินการต่อไป ซึ่งในวันนี้มูลนิธิฯ จะนำตัวไปตรวจที่ รพ.ยันฮี ก่อนส่งไปให้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพ (บ้านพระประแดง) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ล่าสุด ตำรวจได้ติดตามตัวนายวิชัย กาศักดิ์ อายุ 42 ปี สามีของ น.ส.ปริศนา ได้ขณะจอดรถซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ หมู่บ้านปิ่นเจริญ 4 จึงนำตัวมาสอบสวน ซึ่งนายวิชัยอ้างว่า ภรรยากระโดดลงไปจากรถเอง ในขณะที่ตนจอดรถลงไปซื้อข้าวผัด บริเวณปากซอยเทิดราชัน 13 พอเดินกลับมาที่รถก็ไม่พบภรรยาแล้ว จึงขับรถตระเวนออกตามหา จนกระทั่งมาทราบว่าภรรยามาอยู่ที่ สน.ดอนเมือง
ด้านพ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาหรือดำเนินคดีกับนายวิชัย เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในครอบครัว ซึ่งตนได้พูดจาว่ากล่าวตักเตือนนายวิชัย ไม่ให้กระทำการเช่นนี้อีก และหากทำอีกก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนจะนำตัวไปทำประวัติและปล่อยตัวไป
ขณะที่เพื่อนบ้านเล่าว่า รู้จักและเคยช่วยเหลือเรื่องเงินกับนายวิชัย ผู้ที่เป็นสามีของ น.ส.ปริศนา ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัวตั้งแต่เมื่อกลางปี 2561 โดยก่อนหน้านี้ น.ส.ปริศนา มีอาชีพเป็นแม่บ้าน ก่อนจะล้มป่วยจนช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ส่วนนายวิชัย นั้นบวชเป็นพระอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ และสึกออกมา เพื่อมาดูแล น.ส.ปริศนา โดยประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป จนมาช่วงระยะหลังชาวบ้านเห็น นายวิชัย เมาสุราบ่อยครั้ง และมักจะพูดจาไม่รู้เรื่อง บางครั้งก็หลอกขอเงิน โดยอ้างว่าจะไปเปิดห้องพักและไปสมัครงาน แต่ก็กลับนำเงินไปใช้จ่ายในทางอื่น และมักมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาอยู่ประจำ จนกระทั่งนำภรรยาที่ป่วยเป็นอัมพาตไปทิ้งไว้ที่ริมทาง ก่อนชาวบ้านไปพบและได้โทรแจ้งตำรวจ.-สำนักข่าวไทย