เพชรบูรณ์ 4 มี.ค.-ชาวเพชรบูรณ์ จาก 3 ตำบล กว่า 40 ราย แจ้งความถูกปลอมชื่อกู้เงินกองทุนฟื้นฟู กลายเป็นหนี้รวมแล้วกว่า 43 ล้านบาท
ชาวบ้านจาก 3 ตำบล ใน อ.หล่มเก่า และ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จำนวนกว่า 40 คน เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์ และเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า กรณีมีชาวบ้านจำนวน 198 ราย ถูกปลอมแปลงรายมือชื่อเพื่อกู้เงินกับกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้กลายเป็นหนี้รวมแล้วกว่า 43 ล้านบาท
วันนี้ เวลา 10.00 น. ชาวบ้านจาก 3 ตำบล ใน อ.หล่มสัก และ ต.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 40 คน เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมทั้งเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า กรณีถูกปลอมแปลงรายมือชื่อเพื่อกู้เงิน กับกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้กลายเป็นหนี้รวมแล้วกว่า 43 ล้านบาท
นางสง่า นาเมือง อายุ 62 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณปลายปี 2558 ได้มีคนในหมู่บ้านเดียวกันได้มาชักชวนเพื่อที่จะกู้เงินฟื้นฟูจำนวน 10,000 บาท พร้อมทั้งขอสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านตนจึงมอบให้ไปพร้อมกับรับรองสำเนาถูกต้อง แต่ไม่ได้เซ็นสัญญากู้ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีหนังสือจากกองทุนฟื้นฟูแจ้งมาว่าตนเป็นหนี้จำนวน 75,000 บาท รู้สึกตกใจมากจึงได้ปรึกษากับลูกๆ เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่กองทุน จึงได้พบว่าถูกปลอมแปลงรายมือชื่อเพื่อขอกู้เงินกับกองทุนฟื้นฟูดังกล่าว
นางสมจิตร เกตุสำเนา อายุ 53 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่ามีอดีตเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่งมาชักชวนให้กู้เงินกับสหกรณ์อำเภอหล่มเก่าและจะเป็นผู้เดินเรื่องให้ ตนจึงได้มอบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องมอบให้ไป จากนั้นอีก 2 อาทิตย์ ตนได้ไปทวงถามได้คำตอบว่าสหกรณ์ไม่อนุมัติ จึงขอเอกสารคืนแต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงและผลัดมาโดยตลอด กระทั่งมีหนังสือแจ้งว่าตนเป็นหนี้อยู่กับกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์
ด้านนายหินชนวน อโศกตระกูล หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่าเกษตรกรและชาวบ้านได้รับใบแจ้งหนี้จากกองทุนฟื้นฟู แต่ชาวบ้านได้มาแจ้งว่าไม่ได้เป็นหนี้แต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย