คืบหน้าร้อยละ 80 งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

กรมประชาสัมพันธ์ 1มี.ค.-รองนายกฯเผยงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คืบหน้าร้อยละ80ยึดตามโบราณราชประเพณี ตามพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่หรูหรา ฟุ่มเฟือย เกินไปกว่าที่เป็นพระราชประเพณีเดิม และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแนะนำระมัดระวังเรื่องการเคลื่อนย้ายผู้คนในระหว่างพิธี


วันนี้(1มี.ค.)กรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เปิดดำเนินการศูนย์สื่อมวลชนสำหรับงานพระราชพิธีเป็นวันแรก ที่ชั้น1 อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ พร้อมจัดแถลงข่าว ‘การเตรียมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก’ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายพิธีการ เป็นประธาน ร่วมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และนางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ 


นายวิษณุ กล่าวว่า งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่กำลังจะมีขึ้นในอีก1เดือนข้างหน้านี้ ถือเป็นพระราชพิธีสำคัญที่ยิ่งใหญ่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับนายกรัฐมนตรีว่าขอให้จัดเพียงตามโบราณราชประเพณีเท่านั้นอย่าไปสร้างเสริมเติมแต่งอะไรขึ้นใหม่ให้หรูหรา ฟุ่มเฟือยหรือมากเกินไปกว่าที่เป็นพระราชประเพณีเดิม ให้ทำโดยรวบรัด ถ้าสามารถรวบรัดได้และคำนึงถึงการประหยัด หลักนี้เป็นหลักที่รัฐบาลรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาและยึดแนวพระราชกระแสดังกล่าวมาโดยตลอด โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา เรียกว่าพระราชพิธีเบื้องต้น พระราชพิธีเบื้องกลางและพระราชพิธีเบื้องปลาย  


สำหรับฝ่ายจัดพิธีการ มีการเตรียมการต่างๆ 1.เรื่องตราสัญลักษณ์ ซึ่งจะใช้ประทับลงบนคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ และมอบให้ กทม.นำไปประดับตกแต่งสถานที่และเส้นทางเสด็จฯ ตลอดจนธงพระราชพิธีที่มีพื้นสีเหลืองและตราสัญลักษณ์อยู่ตรงกลางและจัดทำเป็นเข็มที่ระลึก 2.เลือกพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อใช้ให้เหมือนกันทั้งประเทศ 3.เตรียมน้ำสำหรับใช้พิธีสรงมุรธาภิเษก โดยจะมีพิธีพลีกรรมวันที่ 6 เม.ย.นี้ 4.เตรียมน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัด สำหรับใช้เป็นน้ำอภิเษกและมีพิธีตักน้ำจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6 เม.ย.โดย 8-9 เม.ย.จะเชิญน้ำไปจัดเก็บในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละจังหวัด จากนั้นแต่ละจังหวัดจะเชิญไปเก็บไว้ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยจัดเก็บในคนโทตราสัญลักษณ์ 

5.เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้แผ่นทองคำสำหรับใช้จารึกพระสุพรรณบัฏแกะดวงพระราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกร 6.เครื่องมือเครื่องใช้ก่อสร้างมณฑปพระกระยาสนาน ซ่อมเกยสำหรับที่จะเสด็จลงเสลี่ยงหรือพระราชยานก้าวลงประทับแล้วเสด็จฯเข้าสู่พระอุโบสถ และ7.การเตรียมเกี่ยวกับขบวนพยุหยาตรา ซึ่งในขบวนพยุหยาตราสถลมารคจะใช้เวลาทั้งหมด 4.30 ชั่วโมง ฝ่ายทหารได้เตรียมการส่วนนี้แล้ว ส่วนขบวนพยุหยาตราชลมารค จะมีช่วงปลายเดือนต.ค. เริ่มที่ท่าวาสุกรีไปยังวัดอรุณฯ และจะมีการเห่เรือตลอดเส้นทาง ระยะทาง 4 กิโลเมตร

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า วันที่ 6 พ.ค.เสด็จออกสีหบัญชรประชาชนสามารถเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลได้ที่ถนนสนามไชย สวนสราญรมย์ ศาลฎีกา ไปจนถึงสนามหลวง คาดว่าจะมีประชาชนนับแสนนับล้านร่วมเฝ้าชื่นชมพระบารมี โดย กทม.จะติดตั้งจอแอลอีดีให้ได้รับชมการถ่ายทอดสดพร้อมเพรียงกัน หลังจากนี้จะเสด็จรับคณะทูตถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นการเสร็จพระราชพิธีเบื้องกลาง 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า งานพระราชพิธีครั้งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงแนะนำให้ระมัดระวังเรื่องการเคลื่อนย้ายผู้คนระหว่างพิธีต่างๆ เนื่องด้วยพระราชวงศ์หลายพระองค์ รวมทั้งบุคคลสำคัญต่างๆ สูงอายุ การเดินจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งเป็นการเปลี่ยนจุดที่ละเอียดอ่อน จะต้องเป็นฝ่ายรอเฝ้าฯก่อนหรือตามไปเฝ้าฯทีหลังต้องได้จังหวะจะโคนที่พอดี 

‘ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมการ และต้องเตรียมอย่างอื่น ขณะนี้ 7 อย่างที่เตรียมไว้เกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เกิน 80 เปอร์เซนต์ ยังจะมีบางเรื่องที่อาจจะต้องเตรียมเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป เมื่อได้รับพระราชทานพระราชวินิจฉัยลงมา’ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนเรื่องการเชิญพระราชอาคันตุกะนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเรื่องนี้ตกลงกันว่าจะไม่มีการเชิญ แต่ถ้าผู้ใดเสด็จหรือมา รัฐบาลก็จะรับเป็นแขกของรัฐบาลและต้อนรับอำนวยความสะดวกแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับแจ้ง สำหรับนักท่องเที่ยวกับการมีส่วนร่วมในพระราชพิธีครั้งนี้นั้น เหมือนประชาชนเข้าไป สามารถเข้าไปอยู่ในหมู่ประชาชน และชมการถ่ายทอดทางสถานทีโทรทัศน์ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดตลอดทุกพิธี 

พล.ต.อ.อัศวิน ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.รู้สึกภาคภูมิใจ และเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีสำคัญนี้ โดย กทม.ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้รับผิดชอบการอัญเชิญน้ำอภิเษก การจัดการเฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาทในการเสด็จเลียบพระนคร การปรับภูมิทัศน์ เพื่อเตรียมการเฝ้ารับเสด็จ และภารกิจอื่นๆแบ่งเป็น 5 ด้าน ด้านกายภาพ ,ด้านปรับปรุงภูมิทัศน์ อาคาร สถานที่และถนน ,ด้านการบริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในการเสด็จเลียบพระนคร ,ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจัดการจราจร และด้านการสนับสนุนการดำเนินงาน 

สำหรับในส่วนของการปรับปรุงภูมิทัศน์ กทม.เพื่อเตรียมการเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กทม.ได้รับมอบหมายให้ดำเนินภารกิจ 1.ปรับปรุงซ่อมแซมผิวจราจร ทางเท้า คันหิน คอกต้นไม้ ไฟฟ้าแสดงสว่าง ระบบการระบายน้ำ ฝาท่อระบายน้ำ ป้ายต่างๆ ศาลที่พักผู้โดยสาร การทาสีตีเส้นเครื่องหมายจราจรในพื้นที่การจัดงานพระราชพิธีฯให้เรียบร้อยสวยงาม กว่า 20 เส้นทาง ขณะนี้มีความก้าวหน้าประมาณร้อยละ 75 

2.การจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร ตลอดจนตู้อุปกรณ์ต่างๆ ในพื้นที่งานพระราชพิธีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้มีความก้าวหน้าประมาณร้อยละ 50 กำหนดแล้วเสร็จ 15 มี.ค.2562

3.การปรับปรุงซุ้มเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง และมุมพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน รวมทั้งสิ้น 32 ซุ้ม และจัดทำซุมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั่วพื้นที่ กทม.กว่า 106 ซุ้ม พร้อมธงประดับเสา 4,000 ชุด ขณะนี้ได้จัดทำแผนการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กทม.จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในเดือน มี.ค.2562 

4.การประดับตกแต่งเมือง ได้แก่ การวางต้นไม้ ดอกไม้ประดับ การตกแต่งด้วยงานดอกไม้สดและการตัดแต่งกิ่งไม้ต้นไม้ ขณะนี้ได้ดำเนินการออกแบบและจัดทำรายละเอียดการประดับไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนเม.ย.2562 และจะดูแลให้คงสภาพไว้จนถึงประมาณวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 

5.การซ่อมแซมและทาสีโบราณสถานทั้งหมดที่อยู่ในเส้นทางการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รวม 12 แห่ง ประกอบด้วย โบราณสถานประเภทกำแพงและประตูเมือง บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร 1 แห่ง โบราณสถานประเภทสะพาน7แห่ง โบราณสถานประเภทอนุสาวรีย์ 3 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่31มี.ค.2562 

6.โครงการแต้มสีกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นโครงการที่ประสานการมีส่วนร่วมในการปรับปรุงและพัฒนาเมืองจากภาคเอกชน ทั้งโดยการสนับสนุนสีและการร่วมทาสีอาคารในถนนที่มีความเก่าแก่และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกทม.ได้แก่ ถนนตะนาว ถนนสิบสามห้าง ถนนพระสุเมรุ ถนนบำรุงเมือง ถนนเฟื่องนคร และถนนเจริญกรุง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค.2562

ขณะที่พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่าการรักษาความปลอดภัยและการจราจร งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขณะนี้จัดทำร่างแผนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยึดหลักดำเนินการอย่างสมพระเกียรติ ปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการแผนปฏิบัติงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการถวายความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยกำหนดพื้นที่ปฏิบัติงาน ได้แก่ พื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และพื้นที่ชั้นนอก กำหนด 6 โซนเพื่อให้ประชาชนชื่นชมพระบารมี โดยจะผ่านจุดคัดกรองโดยรอบพื้นที่ ก่อนเข้าพื้นที่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 

ส่วนด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร ช่วงพระราชพิธีเบื้องกลาง วันที่ 2-4 พ.ค. จะมีการปิดการจราจร พื้นที่ชั้นใน 8 เส้นทาง ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน ถนนสนามไชย ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนท้ายวัง ถนนหน้าหับเผย ถนนหลักเมือง ถนนสราญรมย์ นอกจากนี้ จะจัดจราจรเดินรถทางเดียวอีก 5 เส้นทาง จากนั้นวันที่ 5 พ.ค. เสด็จเลียบพระนคร จะยกระดับปิดการจราจร27เส้นทาง เพื่อรองรับประชาชนเฝ้ารับเสด็จ วันที่ 6 พ.ค.เสด็จสีหบัญชร จะลดระดับปิดจราจรเหลือ 17 เส้นทาง โดยจัดพื้นที่จอดรถรองรับประชาชนใน 4 มุมเมือง จำนวน 27 แห่ง ด้านทิศเหนือ ที่เมืองทองธานี ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ศูนย์ราชการ และสโมสรตำรวจ ทิศใต้ บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 เซ็นทรัลศาลายา เซ็นทรัลพระราม 2 ทิศตะวันออก บริเวณศูนย์การค้าเมกะบางนา ไบเทคบางนา และทิศใต้ บริเวณห้างเซ็นทรัลเวสเกต โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถชัตเตอร์บัสรับ-ส่งสู่บริเวณใกล้พื้นที่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 5 แห่ง ได้แก่ บ้านมนังคศิลา บ้านพิษณุโลก แยกวิสุทธิกษัตริย์ ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า และปากคลองตลาด เพื่อให้ประชาชนเดินเท้าต่อไปยังพื้นที่พระราชพิธีนอกจากเดินทางโดยรถแล้ว ประชาชนสามารถใช้ขนส่งระบบราง และทางน้ำได้ด้วย 

ด้านรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก กรมประชาสัมพันธ์ได้จัดทำข้อมูลพระราชพิธีในรูปแบบออนไลน์ 3 รูปแบบ1.เว็บไซต์ www.phralan.in.th  มาจากคำว่าพระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งสามารถสืบค้นข้อมูลงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ผ่านหนังสือสำคัญ ๆ ที่บรรจุในรูปแบบอีบุ๊ก 4 เล่ม คือหนังสือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกฉบับภาษาไทย มี 192 หน้า มีตั้งแต่พระราชประวัติ ความเป็นมาของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในอดีตมาถึงรัชกาลที่ 9 , หนังสือพระราชพิธีฉบับภาษาอังกฤษ, หนังสือประมวลบทความเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และหนังสือประมวลองค์ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มี 143 หน้าที่ได้เปิดตัวแล้ว มีเนื้อหาพิเศษเกี่ยวพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรัชกาลที่ 10 รวมถึงคลิปที่เกี่ยวข้องของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ,2.เพจเฟซบุ๊ก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 มีเนื้อหาเช่นเดียวกับเว็บไซต์พระลาน และ 3.คิวอาร์โค๊ดและกูเกิ้ลไดรพ์ บรรจุข้อมูลต่างๆ ข้างต้นไว้ เพื่ออำนวยความสะดวก

นอกจากนี้ ในการแถลงข่าววันนี้ ยังถือเป็นการเปิดศูนย์สื่อมวลชนย่อย เปิดดำเนินการตั้งแต่วันนี้(1มี.ค.) ไปถึง 26 เม.ย.ณ อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ก่อนย้ายไปเปิดศูนย์สื่อมวลชนหลักตั้งแต่วันที่ 27เม.ย.-6 พ.ค.ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยมีสายด่วนสอบถามข้อมูลงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โทร.1257เปิดให้ บริการ 10 คู่สาย และยังเตรียมสร้างความรู้ความเข้าใจพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแก่ประชาชน ให้เข้าใจความหมายและซาบซึ้งพระราชพิธีด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]

ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ศาลรัฐธรรมนูญ 14 พ.ค.- มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ สั่ง “พ.ต.อ.ทวี​” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ เหตุสงสัยว่าแทรกแซงรับสอบฮั้วเลือก สว. ส่วน “ภูมิธรรม” ยังรอด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการ […]

แก๊งเผานั่งยางหนีขึ้นภูเขา จนท.จัดกำลังเร่งล่า

ตรัง 14 พ.ค. – เกาะติดคดีเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบกว่า 50 นาย เร่งวางกำลังไล่ล่า 4 มือเผา หลังได้เบาะแสทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเขา ที่โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมกว่า 50 นาย พร้อมกับพราน และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ร่วมกันวางแผนติดตาม 4 ผู้ต้องหา คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]