กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศกำไรสุทธิปี 61 ทะลุเป้ากว่า 21,000 ล้านบาท ปี 62 รุกลงทุนอาเซียนและเอเชียแปซิฟิกทั้งธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ผลประกอบการของเอ็กโก กรุ๊ป ปี 2561 ดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้มีกำไรสุทธิ 21,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9,255 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 78 ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ 3 แห่ง 14,177 ล้านบาท ได้แก่ขายหุ้นที่ถือทั้งหมดใน บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก, บจ.จีเดค และ บจ.มาซินลอค พาวเวอร์ พาร์ทเนอร์ ประเทศฟิลิปปินส์ และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 9,195 ล้านบาท ลดลง 73 ล้านบาท
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 จ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังปี 2561 หุ้นละ 3.50 บาท หากได้รับการอนุมัติเท่ากับบริษัทจะจ่ายเงินปันผลตลอดปี 2561 หุ้นละ 9.50 บาท นอกจากนี้ ผลงานที่โดดเด่นปี 2561 คือ การเข้าลงทุนสัดส่วนร้อยละ 49 ในบริษัท พาจู เอ็นเนอร์ยี่ เซอร์วิส จำกัดประเทศเกาหลีใต้
สำหรับทิศทางปี 2562 นั้น นายจักษ์กริช กล่าวว่า อุตสาหกรรมไฟฟ้าในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตค่อนข้างจำกัด บริษัทจึงมุ่งขยายการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก โดยจะต่อยอดธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนที่มีฐานอยู่แล้ว เช่น สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และขยายฐานการลงทุนไปยังเกาหลีใต้ รวมทั้งแสวงหาโอกาสในธุรกิจแอลเอ็นจี
นายจักษ์กริช กล่าวว่า ปี 2562 บริษัทเตรียมงบลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าไซยะบุรี 160 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาว,โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา 223 เมกะวัตต์ในฟิลิปปินส์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้กำลังจะก่อสร้างเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2562 ส่วนโครงการที่ 3 คือ โรงไฟฟ้าน้ำเทินหนึ่ง 161 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาวจะก่อสร้างเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2566 ทั้งนี้ งบลงทุนดังกล่าวไม่นับรวมโครงการใหม่ที่กำลังจะเข้าไปลงทุน เนื่องจากอยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โรงไฟฟ้ากวางจิ ประเทศเวียดนาม และโรงไฟฟ้าสตาร์ เอ็นเนอร์ยี่ ส่วนขยาย ประเทศอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย