ศาลอาญาคดีทุจริตฯ 28 ก.พ. – ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” 2 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริตสั่งยกเลิกโฉนดที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เจ้าตัวมาฟังคำพิพากษาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ก.พ.) ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลย กรณีใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ในการพิจารณาอุทธรณ์และสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน โดยมีเจตนาช่วยเหลือบริษัท อัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด บริษัท กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ได้รับประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือ เรียกกันโดยทั่วไปว่า คดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ โดยจำเลยให้การปฏิเสธ
ขณะที่ นายยงยุทธ เดินทางมาฟังคำพิพาษาด้วยตัวเอง พร้อมกับทนายความ และบุคคลใกล้ชิด
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกนายยงยุทธ เป็นเวลา 2 ปี เนื่องจากจงใจตีความโดยใช้กฎหมายผิดเพี้ยนจากความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี คำสั่งจำเลยจึงเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ โดยศาลอนุญาตประกันตัวนายยงยุทธ ด้วยหลักทรัพย์ประกัน 500,000 บาท
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า การที่จำเลยขณะดำรงตำแหน่งรักษาการปลัดมหาดไทย แล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนมติอธิบดีกรมที่ดินเรื่องที่ดินอัลไพน์เป็นที่ธรณีสงฆ์ โดยไม่นำความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีแนวทางวินิจฉัยไว้แล้วมาพิจารณาประกอบ เป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบและโดยทุจริต ทั้งที่แนวทางปฏิบัติเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นมาแล้ว ฝ่ายบริหารจะให้หน่วยราชการยึดถือปฏิบัติธรรม เพื่อการบริหารราชการแผ่นดินในมาตรฐานทางเดียวกัน เพราะมิเช่นนั้นในแต่ละยุคสมัยจะมีความเห็นต่างกันสร้างความเสียหายแก่ระบบบริหารราชการแผ่นดินได้
ส่วนที่จำเลยอ้างว่า คำสั่งของจำเลยได้ยึดถือตามแนวทางเสียงข้างมาก ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นการออกคำสั่งทางปกครอง ที่จำเลยในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยก็สามารถทำได้ ศาลเห็นว่า คณะกรรมการดังกล่าวก็เกิดขึ้นโดยคำสั่งที่จำเลยแต่งตั้งเอง ขณะที่การบริหารราชการแผ่นดิน ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะผูกพันหน่วยงานราชการด้วยตามแนวทางมติของ ครม.
และการที่จำเลยอ้างว่า ไม่แน่ว่ายื่นข้อทักท้วงแล้วคณะกรรมการกฤษฎีกาจะพิจารณาหรือไม่นั้น ก็ยังไม่ปรากฎว่าจำเลยได้เคยยื่นข้ออ้างดังกล่าว ทั้งที่ในทางปฏิบัติ หากจำเลยเห็นว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้นจะไม่ชอบ ก็สามารถที่จะยื่นให้ทบทวนได้ กรณีที่จำเลยอ้างจึงฟังไม่ขึ้นและขัดต่อหลักเหตุผล
ขณะที่ ในช่วงปี 2545 ปรากฎข้อเท็จจริงว่า ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร ได้ซื้อสนามกอลฟอัลไพน์ ต่อจากนายเสนาะ เทียนทอง ซึ่งหลังจากนั้นก็พบว่า จำเลยได้รับดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยจนเกษียณราชการ และยังได้รับตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ ในยุครัฐบาลนายทักษิณ
ส่วนที่ ป.ป.ช. ขอให้ลงโทษสถานหนัก เพราะการกระทำของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายต่อกรมที่ดินเป็นอย่างมาก และอาจจะทำให้ถูกฟ้องเป็นเงินหลายล้านนั้น ศาลเห็นว่า ตามทางนำสืบขณะนี้ ก็ยังไม่ปรากฎว่ามีการฟ้องคดีเกิดขึ้น
ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลย 2 ปี โดยไม่รอลงอาญานั้นเหมาะสมแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายยงยุทธ ซึ่งวันนี้สวมสูทสีเทา มีสีหน้าเรียบเฉย ไปยังห้องควบคุมระหว่างรอจำเลยจะยื่นประกันตัวเพื่อจะสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่มาร่วมฟังการพิจารณาว่า จะนำคำพิพาษาไปปรึกษาหารือกันอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เเต่เบื้องต้นคิดว่า ป.ป.ช.ไม่น่าจะยื่นฎีกา เนื่องจากคดีนี้ศาลมีคำพิพากษายืน 2 ศาล เป็นคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เเละศาลอุทธรณ์ก็มีคำพิพากษาลงโทษจำเลย 2 ปีเเล้ว ส่วนในชั้นอุทธรณ์ที่ ป.ป.ช.ได้ยื่นขอให้เพิ่มโทษไป ก็เป็นการยื่นประกอบ เพื่อให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาประกอบกับอุทธรณ์ของฝ่ายจำเลย
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายยงยุทธ จำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 900,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะมีคำสั่งอย่างไรต่อไป ..- สำนักข่าวไทย