ดีเอสไอแจงเหตุเจ้าพนักงานที่ดินเสียชีวิต

ดีเอสไอ 30 ส.ค.-ดีเอสไอ แจงเจ้าพนักงานที่ดินพังงาใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตระหว่างการควบคุม ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง   


พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์ศรีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ต.ต.วรณัณ ศรีล้ำ ผู้อำนวยการสำนักบริหารคดี ร่วมแถลงข่าวกรณีนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีพิเศษที่ 44/2558 ของสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 157 ซึ่งอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน ได้พยายามฆ่าตัวตายและเสียชีวิตที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ในเวลาต่อมา

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยจับกุมตัวนายธวัชชัย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1165 / 2559 ในฐานความผิดดังกล่าว  เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา และนำส่งพนักงานสอบสวน สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินคดีและนำตัวไปควบคุมตัวระหว่างการสอบสวนที่ส่วนควบคุมผู้ต้องหา โดยเจ้าหน้าที่ได้รับตัวไว้เพื่อรอพนักงานสอบสวนนำตัวไปขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญาในวันนี้ (30 ส.ค.) แต่ตั้งแต่รับตัวไว้ควบคุมหลังการสอบสวน เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.ของวันที่ 29 ส.ค.ผู้ต้องหามีอาการวิตกกังวล เครียดและกระสับกระส่าย เจ้าหน้าที่ได้นำอาหารให้รับประทานก็รับประทานได้เพียงเล็กน้อย และเดินไปมาในห้องควบคุม


จากนั้นได้ล้มตัวลงนอน จนเวลาประมาณ 01.00 น.นายธวัชชัยแจ้งว่า แสงในห้องควบคุมสว่าง ทำให้นอนไม่หลับ ขอให้เจ้าหน้าที่ปิดไฟ แต่ตามระเบียบไม่สามารถปิดไฟในห้องควบคุมได้ นายธวัชชัยจึงนอนบนที่นอน โดยใช้ผ้าคลุมบริเวณหน้า และนอนตะแคง เจ้าหน้าที่เห็นว่านายธวัชชัยพักผ่อนแล้ว จึงตรวจตราตามปกติ

ต่อมาในเวลาประมาณ 02.00 น.เจ้าหน้าที่เดินกลับมาตรวจที่หน้าห้องควบคุมอีกครั้ง เห็นว่าผู้ต้องหานั่งหันหลังพิงประตู จึงเคาะประตูเรียก แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบ จึงรีบเปิดประตูเข้าไปพบว่าผู้ต้องหาได้ใช้ถุงเท้าผูกกับขอบบานพับประตูห้องควบคุม แต่ยังมีลมหายใจอยู่ จึงพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต และรีบนำส่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ เพื่อให้ความช่วยเหลือ ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 02.30 น. แต่ผู้ต้องหาได้เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 04.45 น.

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานที่ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินการตามกฎหมาย และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง พร้อมกับมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ดีเอสไอยืนยันได้วางมาตรการควบคุมผู้ต้องขังเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด


นอกจากนี้ อธิบดีดีเอสไอสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ละเลยการปฎิบัติหน้าที่จนทำให้ผู้ต้องขังผูกคอตายหรือไม่ โดยขณะควบคุมตัวมีเจ้าหน้าที่ดูแล  3 คน ห้องคุมขังเป็นห้องแอร์ในช่วงกลางคืนทำให้อากาศหนาว ผู้ต้องขังจึงสวมถุงเท้าและใช้ถุงเท้าผูกคอกับบานพับประตู โดยในห้องคุมขังไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ระหว่างการสอบสวนดีเอสไอดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน มีญาติของผู้ต้องหาร่วมรับฟังการสอบสวนอยู่ด้วยจนถึงช่วงเย็น หลังการสอบสวนแล้วเสร็จผู้ต้องหายังตอบแบบสอบถามระบุความพึงพอใจในการปฎิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ

ด้าน พ.ต.ท.ประวุธ  กล่าวว่า เมื่อผู้ต้องหาเสียชีวิตในส่วนของคดีอาญาต้องจำหน่ายถือเป็นที่สิ้นสุด ส่วนผู้ต้องหารายอื่นที่ยังอยู่ในเรือนจำต้องดำเนินคดีต่อไป ซึ่งการเสียชีวิตของผู้ต้องหาไม่กระทบต่อรูปคดีเพราะได้สอบสวนแล้วเสร็จคดีมีพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งนายธวัชชัยหลบหนีคดีมาตั้งแต่ปี 2546 หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจนถูกไล่ออกจากราชการ

ทั้งนี้ นายธวัชชัย เป็นอดีตข้าราชการกรมที่ดินในตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ดำรงตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกจากราชการในตำแหน่ง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง และตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพิเศษ กรณี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร้องขอร้องดีเอสไอดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศที่มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ จนมีการสอบสวนและออกหมายจับนายธวัชชัยในคดีดังกล่าว

หลังแถลงข่าว ดีเอสไอเปิดให้ดูห้องขัง โดยนายชยพล หวานชะเอม หัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องหา ซึ่งเฝ้าผู้ต้องหาในช่วงที่เกิดเหตุ กล่าวว่า  ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ตรวจสอบ เห็นผู้ต้องหาพักผ่อนแล้ว ตนจึงเตรียมไปอาบน้ำ โดยนายธวัชชัยเป็นโรคความดัน และอายุ 66 ปี ดีเอสไอจึงได้แจ้งญาติให้อยู่เฝ้าได้ แต่ญาติอยู่จนเย็นก็เดินทางกลับ และไม่อยู่เฝ้าจนกระทั่งเห็นนายธวัชชัยในท่านั่ง และอยู่ในท่าเดิมนานเรียกไม่ขานจึงเข้าไปดู และพบว่านายธวัชชัยได้พยายามฆ่าตัวตายจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

นายชยพล กล่าวอีกว่า กรณีนายธวัชชัย ที่ญาติไม่อยู่เฝ้า ตนจึงได้ให้อยู่ในห้องขัง 6008 ที่อยู่ใกล้ห้องเจ้าหน้าที่ที่สุด สำหรับห้องขัง ดีเอสไอมีทั้งหมด 16 ห้อง  แยกขังห้องละคน เนื่องจากไม่ได้ผู้ต้องขังหนาแน่น เป็นห้องขังระหว่างสอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ