ASAP รุกขยายฐานลูกค้า B2C ผ่านแอพฯ

กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – ASAP เปิดแผนปี 62 รุกขยายฐานลูกค้า B2C ผ่านแอพฯ asap ชูพอร์ตรถยนต์ให้เช่าแข็งแกร่ง ดันศักยภาพการดำเนินธุรกิจ หนุนรายได้โตต่อเนื่อง


นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP กล่าวว่า คาดรายได้ปีนี้โตร้อยละ 25 -30 วางงบ 3,000 – 4,000 ล้านบาท เพิ่มรถใหม่ 4,000 คันในปีนี้ ตั้งเป้าจะเพิ่มรถเช่าระยะสั้น  800 – 1,000 คัน จากเดิม 601 คัน ในไตรมาส 3 ของปี 2561 และเพิ่มรถเช่าระยะยาวเป็น 18,000 – 20,000 คัน จากเดิม 14,131 คัน ในไตรมาส 3 ของปี 2561 โดยรายได้หลักของ ASAP ยังคงมาจากธุรกิจรถเช่าระยะยาวถึงร้อยละ 80 แต่ปีนี้จะเดินหน้าเจาะกลุ่มเช่ารถยนต์ระยะสั้นและผ่านแอพพลิเคชั่น asap GO มากขึ้น พร้อมมองว่าจะสามารถทำกำไรได้ในปีนี้ และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 20 จากสัดส่วนรายได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ ASAP ได้ลงนามเซ็นสัญญากับผู้ซื้อแฟรนไชส์ 5 ราย เพื่อเปิด asap Select รองรับการให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ ประกอบด้วย เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมานนทบุรี และกรุงเทพฯ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/2562 และมั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้บริการครบทั้ง 30 แห่งภายใน 5 ปีตามแผน


ด้านบริการเช่าในองค์กรต่าง ๆ ผ่าน asap Go คาดปีนี้จะเปิดให้บริการกับลูกค้าในองค์กรต่าง ๆ เพิ่มกว่า 300 คัน วางเป้าหมายลูกค้าองค์กรประมาณ 40 – 50 บริษัท จากปัจจุบันมีลูกค้าจากกลุ่ม Toyota Motor Group ในช่วงไตรมาส 1/2562 จำนวน 100 คัน และช่วงไตรมาส 4/2562 อยู่ที่ 200 คัน และกลุ่ม SCG Betagro อยู่ภายใต้การทดสอบปีนี้ประมาณ 100 คัน

ทั้งนี้ ในปีนี้ ASAP จะรุกให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปมากขึ้น หรือ B2C จากเดิมเป็นกลุ่ม B2B โดยผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจ ซึ่งมีแอพพลิเคชั่น asap เพื่อเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและสินค้า/บริการอย่างครบวจร ซึ่งช่วยให้สามารถขยายฐานลูกค้าไปในวงกว้างและกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการเช่ารถยนต์ของ ASAP หรือซื้อรถมือสอง รวมถึงการเพิ่มจุดให้บริการเพิ่มขึ้นผ่านจากการเปิด asap Select ของแฟรนไชส์ส่งผลดีต่อศักยภาพการดำเนินธุรกิจรถยนต์ให้เช่าโดยรวมที่มีอัตราการใช้บริการรถยนต์ใช้บริการของลูกค้าเพิ่มขึ้นรวมถึงภาพรวมการเติบโตในระยาว . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก