ไต้หวัน 25 ก.พ. – ธนาคารกรุงไทยตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โตร้อยละ 5 พร้อมพัฒนาระบบรองรับยุคดิจิทัล ยืนยันไม่ปลดพนักงาน
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรวมปี 2562 เติบโตร้อยละ 5 เทียบกับปีก่อนขยายตัวร้อยละ 4.4 หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) โตได้ร้อยละ 4.1 ตามที่ธนาคารคาดการณ์ ซึ่งยังคงต้องติดตามปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน โดยกลุ่มที่คาดว่าจะโตและโดดเด่นที่สุดปีนี้ คือ สินเชื่อรายย่อยคาดขยายตัวร้อยละ 6 – 7 และจะหันไปเจาะตลาดขยายฐานลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอีมากขึ้น พร้อมจะลดสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐลง เพราะธนาคารมีต้นทุนทางการเงินสูงกว่าธนาคารของรัฐ พร้อมเตรียมรุกธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการ พร้อมยอมรับว่าปัจจุบันสินเชื่อรถยนต์ใหม่มีการแข่งขันสูง ทำให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) ค่อนข้างต่ำ หากเร่งเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างรายได้ดอเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคาร และเตรียมเปิดให้บริการสินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถไตรมาส 2/2562 ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยปีนี้ร้อยละ 6 – 7
สำหรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายนนี้ มองว่าจะส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อบ้านบ้าง แต่ธนาคารยังเดินหน้าในกลุ่มสินเชื่อบ้านอย่างระมัดระวัง โดยที่ไม่เร่งการขยายตัวมากจนเกินไป ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารปี 2562 ตั้งเป้าที่จะลดให้ต่ำกว่าสิ้นปีก่อนที่ 100,000 ล้านบาท และคาดว่าจะตั้งสำรองใกล้เคียงกับปีก่อนหรืออาจจะลดลงเล็กน้อย เพื่อรักษาความแข็งแกร่งและความมีเสถียรภาพของธนาคาร ซึ่งอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้สงสัยจะสูญจะอยู่ในระดับร้อยละ 125-128 ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ร้อยละ 125
ขณะเดียวกันธนาคารจะลงทุนด้านระบบไอทีของธนาคาร เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการมุ่งพัฒนาการให้บริการ และผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และพัฒนาระบบไอทีวงเงิน 12,000 ล้านบาทจากงบลงทุนด้านไอที 5 ปี (2562-2566) ทั้งหมด 19,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และจูงใจให้ลูกค้าของธนาคารหันมาใช้บริการผ่านท่องทางดิจิทัลมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนของธนาคาร หลังจากรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้บริการการโอนเงินและจ่ายบิลหายไป โดยรายได้ค่าธรรมเนียมที่หายไปทุก 1 ล้านบาท ธนาคารจะต้องลดต้นทุนลง 4 – 5 ล้านบาท เพื่อทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารไม่ลดลงตามไปด้วย
นอกจากนี้ ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดพนักงาน แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เช่น การเกษียณอายุตามปกติ การเกษียณอายุก่อนอายุ 60 ปี และการลาออกตามปกติ คาดภายในช่วง 2-3 ปี พนักงานจะอยู่ที่ 21,000 คน ลดลงจากปัจจุบันที่ 22,000 คน และสาขาจะลดลงมาอยู่ที่ 1,000 สาขา จากปัจจุบันมี 1,100 สาขา สำหรับแอพพลิเคชั่น “Krungthai Next” ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถรองรับปริมาณการทำธุรกรรมให้เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีผู้ใช้บริการ 4 ล้านคนในเดือนมกราคม 2562 ตั้งเป้ามีผู้ใช้ “Krungthai NEXT” สิ้นปี 2562 จำนวน 10 ล้านคน . – สำนักข่าวไทย