นครราชสีมา 24 ก.พ. – ปลัดคลังแนะเลือกพรรคการเมืองทำรัฐสวัสดิการต้องมีงบทำได้จริง มีแหล่งที่มารายได้รองรับ งบกลางจัดทำได้เพียง 1 แสนล้านบาทต่อปี
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพรรคการเมืองเสนอนโยบายด้านรัฐสวัสดิการ จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาข้อเสนอนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองอย่างรอบคอบ ในการจัดทำรัฐสวัสดิการเพื่อดูแลประชาชน ต้องพิจารณาว่าเป็นนโยบายลงทุนไปแล้วเกิดประโยชน์ได้ระยะยาว สามารถปฏิบัตจริงได้ จับต้องได้ ใช้เงินเหมาะสมกับประโยชน์ที่เกิดขึ้น และเป็นโครงการที่จำเป็นต่อการดำรงชีพไหม เพราะหากแจกมากเกินไปอาจกระทบต่อรายได้ของรัฐบาล
เพราะหากรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศจะมีงบกลางรองรับการใช้จ่ายด้านสวัสดิการไม่เกินร้อยละ 2-3 ของประมาณรายจ่ายรวม 3 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี หากโครงการหรือนโยบายใดใช้เงินสูงมากกว่าแสนบ้านบาทอาจกระทบต่อรายได้ของรัฐ และหากโครงการใดตั้งงบประมาณสูงกว่าเกิน 1,000 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังกำหนดไว้ โดยต้องเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ จึงไม่เป็นห่วงว่าจะกระทบต่อวินัยการเงินการคลัง เพื่อกำกับดูแลการใช้งบประมาณ การตั้งงบรองรับการชำระหนี้แต่ละปี และยังต้องกันงบสำหรับรายจ่ายประจำและงบลงทุน จากนั้นการกันงบกลางรองรับจัดทำนโยบายสสวัสดิการต้องพิจารณาให้เหมาะสม
นายประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อมีนโยบายในการใช้จ่าย ในส่วนของกระทรวงการคลังต้องวางแผนหารายได้ โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี แม้ไม่ได้เพิ่มอัตราแต่ต้องขยายฐานให้ทั่วถึงครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่ควรเสียภาษีแต่ไม่ได้เสีย เช่น การค้าขายผ่านออนไลน์ เพราะเติบโตมากขึ้นเท่าตัว ขณะนี้ร่างกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผู้ค้ารายใหญ่ เช่น เฟสบุ๊กระบุว่าพร้อมเสียภาษีหากกฎหมายไทยผ่านความเห็นชอบ และผู้ค้ารายใหญ่อื่น ๆ เพราะหากเก็บทั่วถึงเป็นธรรมยังมีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย