แนะผู้เกี่ยวข้องวางแผนรองรับเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค.

เมืองทองธานี 21 ก.พ.-  รองเลขา กกต. ห่วงการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค.  ผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเกินเป้า  แนะนำวางแผนรองรับ   เผย บัตรเลือกตั้ง 4 ภาค 4 สี  บัตรลงคะแนนล่วงหน้า-นอกราชอาณาจักร มีตำหนิแตกต่าง  ไม่ต้องกังวลปัญหาบัตรพลัดหลง 


นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล  รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)   ชี้แจงรายละเอียดการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส. ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร ว่า กกต.เป็นห่วงการใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าในวัน 17 มี.ค.    เดิมตั้งเป้าว่าจะมีผู้ลงทะเบียนไม่เกิน  2 ล้านคน    แต่วันสุดท้ายวันเดียวยอดผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้น 800,000 คน โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ  มีผู้ลงทะเบียนจากต่างเขตเลือกตั้งนับหมื่นคน 

นายณัฏฐ์ แนะนำให้วางแผนรองรับ   ตั้งแต่การจราจร  ไม่ให้ติดขัด  และต้องจัดคนเข้าช่องตามภาคและจังหวัดให้ได้   โดยให้ใช้เกณฑ์จัดแบ่งผู้มีสิทธิออกเป็นห้องละ 800 คน   และต้องปิดประกาศป้ายผู้สมัครรับเลือกตั้งให้ครบ  ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ หมายเลขผู้สมัครมีเป็นจำนวนมากและไม่ซ้ำกันเลย   จึงขอเชิญชวนเน้นให้ประชาชนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Smart Vote  ในโทรศัพท์มือถือ  ตรวจสอบข้อมูลว่าในเขตเลือกตั้งของท่านมีผู้สมัครกี่คน 


นายณัฏฐ์ กล่าวว่า กรณีผู้สมัคร  จ.ชุมพร เขต 2  และ จ.ร้อยเอ็ดเขต 4  ซึ่งเสียชีวิตทั้ง 2 คน  รอบนี้สามารถกาบัตรลงคะแนนให้ได้  ไม่ถือเป็นบัตรเสีย เพราะในบัตรมีคะแนนปาร์ตี้ลิสต์แฝงอยู่  คะแนนของคนตายจะถูกส่งต่อให้พรรค แต่ถ้าผู้เสียชีวิตชนะการเลือกตั้ง กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่   ยกเว้นเฉพาะผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิเท่านั้นที่จะเป็นบัตรเสีย ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ จำนวนบัตรเสียจะน้อย  จะมีเพียงเขียนข้อความหรือจดหมายฝากลงไปในบัตร  

 นายณัฏฐ์ กล่าวว่า หลังการประกาศชื่อผู้สมัคร  ล่าสุดมีคดีที่ศาลฎีกา 241 คดี  แนวโน้มจะได้รับสิทธิสมัครกลับเข้ามาครึ่งๆ  ดังนั้น การประชาสัมพันธ์ 2 สัปดาห์สุดท้าย  จะเน้นย้ำถึงการกาเบอร์ผู้สมัครที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อจะเป็นบัตรเสีย  ซึ่งโอกาสมีไม่ถึง 50 เขตเลือกตั้ง   

“การใช้สิทธิล่วงหน้าในวันที่  17 มี.ค. เป็นด่านแรกของการเลือกตั้ง  รวมถึงการใช้สิทธิเลือกตั้งสำหรับคนพิเศษ กลุ่มผู้พิการและผู้สูงอายุ ซึ่งจำนวนคนไม่เยอะ แต่มีความซับซ้อน  คล้ายจำลองการเลือกตั้งนอกเขตและในเขตมารวมกัน  ซึ่ง กทม.จัดที่บ้านบางแค  แต่ในรอบนี้มีทั้งหมด 10 เขต  แม้กฎหมายกำหนดให้กากากบาทด้วยตัวเอง  แต่คนพิเศษ (ยกเว้นคนตาบอด) ที่ไม่สามารถกาบัตรด้วยตัวเอง  เช่น คนพิเศษในกลุ่มมือสั่น  มือไม่มีแรง แต่สติสัมปะชัญญะดี  สามารถร้องขอให้มีผู้ช่วยเหลือติดตามเข้าไปในคูหาลงคะแนนเพื่อช่วยกาบัตร  และขอให้ระวังผู้พิการที่อาจทดสอบระบบที่ราชการออกแบบ เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุผู้ถือบัตรผู้ป่วยจิตเวชไปขอใช้สิทธิ จนต้องแก้ปัญหาให้ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรผู้ป่วย”  นายณัฏฐ์ กล่าว


นายณัฏฐ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นการวินิจฉัยบัตร  กรณีผู้สมัครถูกตัดสิทธิ  ก่อนนับคะแนน กกต.จะตัดชื่อบุคคลนั้นออกไปก่อนเพื่อไม่ให้มีปัญหาต้องวินิจฉัยบัตร   ส่วนการรายงานผลแบบไม่เป็นทางการ  กรรมการประจำหน่วยต้องกรอกผลคะแนนแบบไม่เป็นทางการ ในแอพพลิเคชั่น Rapid Report   และกรอกเป็นเอกสารหลักฐาน เพื่อตรวจทานเปรียบเทียบ   ป้องกันเหตุผิดพลาด หากกรอกตัวเลขใน Rapid Report   ผิดก็ไม่ต้องรับผิด   กรณีกรรมการประจำหน่วยฯมาปฏิบัติงานไม่ครบ อำเภอต้องส่งกรรมการสำรองมาให้ครบก่อนการนับคะแนน

ส่วนข้อกังวลเรื่องบัตรพลัดหลง นายณัฏฐ์ กล่าวว่า   บัตรเลือกตั้งจะมี 4 สี ใช้ภาคละสี  บัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต และนอกราชอาณาจักร  จะมีตำหนิ ไม่เหมือนกับบัตรที่ใช้ในวันที่ 24 มีนาคม  จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีบัตรพลัดหลง   โดยในวันที่ 6-7 มีนาคม นี้ จะมีการติวเข้มการเลือกตั้งล่วงหน้า   ส่วนกรุงเทพมหานคร ทราบว่าในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ จะประชุมเตรียมความพร้อมการบริหารจัดการการเลือกตั้งล่วงหน้า   .-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ก.พาณิชย์ ปรับร้าน “เจ๊ไฝ” 2 พันบาท ไม่ติดป้ายแสดงราคาชัดเจน

กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – ภาครัฐร่วมมือลงพื้นที่ตรวจสอบร้าน “เจ๊ไฝ” หลังถูกร้องเรียน ขายไข่เจียวปูราคาสูงกว่าป้ายกำกับ โดยถูกกรมการค้าภายในสั่งปรับ 2,000 บาท เพราะไม่มีป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน พร้อมตรวจสอบต้นทุนวัตถุดิบเพื่อวิเคราะห์ราคาขาย วันนี้ (20 ส.ค.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบร้านไข่เจียวปูชื้อดัง “เจ๊ไฝ” ย่านประตูผี เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า เมนูไข่เจียวปูที่ระบุราคาไว้ 1,500 บาท แต่ลูกค้าถูกเรียกเก็บเงินสูงถึง 4,000 บาท นายพิสิฐ อภิชนาพงศ์ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการร่วมตรวจสอบร้านเจ๊ไฝ พบว่าไม่มีป้ายแสดงราคาไข่เจียวปู 4,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบ จึงถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในมาตรา 28 ที่ระบุเอาไว้ว่า ทางร้านต้องติดป้ายราคาสินค้า และบริการ ให้ชัดเจนหากมีการฝ่าฝืน จะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท […]

ในหลวง-พระราชินี เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ในหลวง-พระราชินี เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน ที่ปฏิบัติงานชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งรายบุคคลและหน่วย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ คาดต้นเดือนกันยายนเรียบร้อย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ก่อนอื่นขอพูดถึงเรื่องที่เป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพราน ที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ทรงติดตามสถานการณ์มาตลอด โดยในกรณีที่เกิดความสูญเสีย ได้ทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ล่าสุด รองราชเลขานุการในพระองค์ ได้ติดต่อมายังกระทรวงกลาโหมและมาถึงตนว่า พระองค์ท่านทรงห่วงใยเรื่องการพระราชทานเหรียญกล้าหาญ ว่าได้ดำเนินการอย่างไร เรื่องนี้กระทรวงกลาโหมได้เร่งรัดที่จะขอพระราชทานเหรียญให้กับทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพราน ที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยหลักเกณฑ์จะคล้ายกันกับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการขอเหรียญกล้าหาญในครั้งนี้ กำลังพลเข้าปฎิบัติการเป็นจำนวนมาก กระทรวงกลาโหมจะรวบรวมเสนอไปในคราวเดียวกันเพื่อขอพระราชทาน ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยกำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ เมื่อถามว่าการขอพระราชทานเหรียญกล้าหาญ จะเป็นเหรียญในลักษณะใดบ้าง พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า เหรียญจะไปถึงขั้นรามาธิบดี และเหรียญทุกระดับที่สามารถให้ได้ตามความเหมาะสม มีพฤติการณ์ที่สอดคล้อง แต่เนื่องจากมีกำลังพลจำนวนมาก ตนได้ให้แนวทางไปว่า ให้ขอไป 2 ลักษณะ […]

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย