บุรีรัมย์ 21 ก.พ.- สตช.ส่งชุดปราบฉ้อโกงทรัพย์ประชาชนลงบุรีรัมย์นำหมายศาลจับกุมเจ้าของเต็นท์รถรายใหญ่ หลังผู้เสียหายหลายรายเข้าร้องเรียนถูกหลอกการซื้อ-ขาย รวมทั้งให้บริการสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอายัดรถกว่า 200 คัน
ช่วงสายวันนี้ (21 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และอีกหลายฝ่ายกว่า 100 นาย นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์เข้าตรวจสอบเต็นท์รถรายใหญ่แห่งหนึ่ง ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมอายัดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กว่า 200 คัน นอกจากนี้ ยังนำหมายศาลเข้าควบคุมตัวเจ้าของเต็นท์รถและผู้ดูแลอีก 2 คน ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต , ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, จัดหามาซึ่งเงินทุนให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต , ปลอมและใช้เอกสารปลอมกรณีมีหลักฐาน” เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายถูกเต็นท์รถหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อขายรถยนต์ บางรายไม่สามารถโอนเป็นกรรมสิทธิ์ได้ หรือได้รับเงินไม่เต็มจำนวน เช่น เมื่อลูกค้านำรถมาขายเทิร์นให้เต็นท์ แต่นำกลับไปใช้งานพบว่ารถมีปัญหา จึงมาขอเปลี่ยนเป็นรถตัวเองคันเดิมและถูกเต็นท์บ่ายเบี่ยงอ้างว่าขายไปแล้ว หากต้องการรถคืนต้องจ่ายเงินเพิ่ม บางรายนำรถมาขายทำสัญญาซื้อขายเรียบร้อยแล้ว แต่เต็นท์กลับจ่ายเงินให้เพียงบางส่วนที่เหลือจะโอนให้ภายหลัง แล้วกลับเพิกเฉย
มีรายงานว่า เย็นวันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน สตช. จะเดินทางลงพื้นที่แถลงรายละเอียดของการจับกุมครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย