กกต.ประกาศรับรองผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2,810 คน

กกต. 15 ก.พ. – กกต.ประกาศรับรองผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ 2,810 คน  จาก 77 พรรคการเมืองที่เสนอรายชื่อ  และรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี  68 คน จาก 44 พรรคการเมืองที่เสนอรายชื่อ  ขณะที่ ผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศรับรอง สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ภายใน 7 วัน  


ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันนี้ (15 ก.พ.) มีมติประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ  จำนวน 2,810 คน  จาก 77 พรรคการเมืองที่เสนอรายชื่อ  และไม่ประกาศรายชื่อ จำนวน 107 คน และประกาศรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี จำนวน  68 คน  จาก 44 พรรคการเมือง จาก 71 รายชื่อ 46 พรรคการเมืองที่เสนอรายชื่อ  และไม่ประกาศรายชื่อ จำนวน 2 คน เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่า เป็นผู้ถูกเสนอรายชื่อที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล จำนวน 1 คน และ  มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 1 คน

สำหรับการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นอำนาจของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งในการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งต้องดำเนินการประกาศภายในวันนี้เช่นกัน และเมื่อได้ประกาศรายชื่อแล้ว จะนำไปปิดประกาศไว้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังสามารถตรวจสอบได้จากแอปพลิเคชั่น SMART VOTE ด้วย ซึ่งสำนักงานจะเร่งปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันโดยเร็ว


ทั้งนี้ บุคคลใดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งมิได้ประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง บุคคลนั้นมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ไม่รับสมัคร ตามมาตรา 49 และมาตรา 59 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และหากผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือผู้สมัครผู้ใดเห็นว่า ผู้มีชื่อในประกาศรายชื่อที่ กกต.และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้ประกาศไว้ ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งให้มีสิทธิยื่นคำร้องต่อ กกต.ได้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัครตามมาตรา 51 และมาตรา 60 ด้วย. – สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี

บึ้มสนั่นโรงพัก! มือมืดซุกระเบิดใต้รถกระบะของตำรวจ

2 เหตุไม่สงบ จ.นราธิวาส คนร้ายซุกระเบิดรถเจ้าหน้าที่ก่อนจุดบึ้ม ขณะจอดที่ สภ.ศรีสาคร ส่วนที่ อ.ยี่งอ ไฟไหม้รถปลัดอำเภอ เร่งตรวจสอบเอี่ยวป่วนใต้หรือไม่

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ