กทม.แก้ฝุ่นต่อเนื่อง ติดสติ๊กเกอร์รถ1.4 หมื่นคันไม่ขับต้องดับเครื่อง

กทม.15 ก.พ. – กทม.แก้ปัญหาฝุ่นละอองต่อเนื่อง แม้จะผ่านช่วงวิกฤต ล่าสุดติดสติ๊กเกอร์รถในสังกัดกว่า 14,000 คัน เป็นเชิงสัญลักษณ์ทุกคันไม่ขับต้องดับเครื่อง เพราะเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษสำคัญในกรุงเทพฯ


นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(ปลัด กทม.)เปิดกิจกรรม กทม.ร่วมใจลดฝุ่นละออง PM2.5 ภายในบริเวณอาคารธานีนพรัตน์ กทม. 2 เขตดินแดง จากนั้นเดินขบวนรณรงค์ติดสติ๊กเกอร์ “ร่วมใจไม่ขับ ช่วยดับเครื่อง” ให้กับรถราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีประมาณ 14,000 คัน เป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่า รถ กทม.ทุกคันไม่ขับ ต้องดับเครื่อง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะอย่างจริงจัง


ปลัด กทม.กล่าวว่า แหล่งกำเนิดมลพิษสำคัญในกรุงเทพฯ คือรถยนต์ โดยปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีรถที่จดทะเบียนกว่า 10 ล้านคัน  แยกเป็นเครื่องยนต์ดีเซลประมาณ 2,000,000 คัน ถือว่ามากกว่าพื้นผิวจราจรที่จะสามารถรองรับได้ 4 เท่า ทำให้เกิดการจราจรติดขัดและเป็นที่มาของการสะสมมลพิษบนท้องถนน  ประกอบกับในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม ถึงมีนาคม เป็นช่วงที่มีความกดอากาศสูง ทำให้ฝุ่นควันมลพิษเกิดการสะสมในชั้นบรรยากาศได้มากขึ้น  


ปลัดกทม.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้ร่วมกับหลายภาคส่วนดำเนินการเข้มงวดกวดขันการปล่อยฝุ่นควันจากรถยนต์ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ในส่วนของกรุงเทพฯ ที่มีจำนวนรถยนต์ในสังกัดมากกว่า 14,000 คันจึงมีนโยบายเน้นย้ำและกำชับให้พนักงานขับรถยนต์ทุกหน่วยงานต้องดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อไม่ปฏิบัติงาน หรือจอดรถรับส่งผู้โดยสาร พร้อมกับให้ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ตามระยะ ทาง เป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อไม่ให้ปล่อยมลพิษเกินค่ามาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด จากข้อมูลพบว่ารถยนต์ในสังกัด กทม.กว่าร้อยละ 90 มีค่ามลพิษผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ในอนาคตจะต้องทำให้ยานพาหนะของกทม.ทั้งหมดผ่านเกณฑ์มาตรฐานมลพิษทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะ กทม.เป็นหน่วยงานที่ทำ หน้าที่ในการดูแลเรื่องของคุณภาพอากาศจึงต้องทำเป็นตัวอย่าง 

นางศิลปสวย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่มีการคาด การณ์ว่าอากาศในกรุงเทพจะปิดแต่นโยบายต่างๆได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วย งานยังคงปฏิบัติตามเดิมทั้งการฉีดพ่นน้ำจากอาคารสูงฉีดพ่นน้ำในสวนสาธารณะรวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆก็จะยังคงทำต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติจริงๆ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

จากสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท

จากปี 2495 ของช่อง 4 บางขุนพรหม จุดเริ่มต้นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท ในปี 2568 มีการเปลี่ยนผ่านพัฒนาการในแวดวงสื่อสารมวลชนหลายยุคหลายสมัยมาอย่างไรบ้าง ติดตามจากรายงาน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต.ปล่อยฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต. ปล่อยฮั้วเลือก สว. เหตุไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กกต.ทำตามกฎหมาย หากเสียหายใช้สิทธิทางศาลอื่นได้