fbpx

นายกฯ ชมสาธิตการบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ

ลพบุรี 14 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี ชมสาธิตการบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ ให้ประเทศไทยมีรูปแบบการบริหารจัดการสาธารณภัยเป็นรูปธรรม ตามพระราโชบายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจ เตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ เป็นที่พึ่งของประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ตรวจความพร้อมการสาธิตด้านการบรรเทาสาธารณภัย ในการฝึกซ้อมการป้องกันและการบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ ประจำปี 2562 (Integrate Disaster Management Exercise 2019 : IDMEx 2019) ร่วมกับทหารรักษาพระองค์เหล่าทัพ ณ กองพลรบพิเศษที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี  โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.สุนัย ประภูชะเนย์  ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และนายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ให้การต้อนรับ 

นายกรัฐมนตรี ได้รับชมการตรวจความพร้อม การแสดงยานยนต์ และอากาศยานด้านการบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงรับชมการสาธิตการกู้ภัยทางน้ำ การกู้ภัยอาคารถล่ม การกู้ภัยสารเคมีและวัตถุอันตราย การดับเพลิงโดยเครื่องมือพิเศษ การสาธิตการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมเยี่ยมชมระบบรถบัญชาการ


ทั้งนี้การฝึกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ ประจำปี 2562 สืบเนื่องจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทย ที่ประสบปัญหาได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์วิกฤตและสาธารณภัยต่าง ๆ และทรงพระราชทานพระราโชบายสำคัญ ให้นำขั้นตอนการสั่งการในเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวง มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการและประชาชนจิตอาสาเข้าใจในสถานการณ์ที่เผชิญ พร้อมทั้งกำหนดบทบาทของจิตอาสา 904 และประชาชนจิตอาสาพระราชทาน ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามแนวทางของโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดีด้วยหัวใจ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ ผู้ฝึกซ้อมและจิตอาสา ว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้พระราชทานพระราโชบายเกี่ยวกับการบรรเทาสาธารณภัย พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติอย่างตั้งใจ มีความประสานแผนอย่างสอดคล้องตามหน้าที่และขั้นตอนที่กำหนดไว้ ทั้งหน่วยทหาร พลเรือนและจิตอาสาทุกคน ซึ่งการเตรียมความพร้อมวันนี้ ถือเป็นการจัดทำโครงสร้างหรือรูปแบบในการป้องกันสาธารณภัยในภาพรวมที่จะเป็นแบบอย่างให้ทุกจังหวัด หากเกิดเหตุการณ์สาธารณภัย ที่ต้องมีการระดมบุคลากรในการดูแลประชาชน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ได้เห็นถึงความมีระเบียบวินัย การปฏิบัติการด้วยความพร้อมเพรียง ความเข้มแข็งในการปฏิบัติการ ซึ่งแสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทั้งประเทศ และหากเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะสถานการณ์ใด ๆ ก็จะสามารถนำพาประเทศให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ภายใต้ร่มพระบารมี โดยรัฐบาลจะสืบสานรักษาต่อยอดสิ่งเหล่านี้ต่อไป โดยต้องมีความพร้อมและการเตรียมการที่ดีก่อนที่จะมีภัยเกิดขึ้น รัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุนในทุกด้าน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องตั้งมั่นในจิตใจตัวเองว่าต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส ทำวันนี้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ไม่ว่าจะทำหน้าที่อะไร มีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่ง และอนาคตต้องเข้มแข็งไปเรื่อย ๆ ในทุกมิติ อย่าให้ใครมาบ่อนทำลาย ทำให้เกิดความแตกแยกโดยเด็ดขาด ถ้าเราไม่รักกันเองแล้วใครจะรักเรา

นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนยิ้มเข้าไว้ ขอขอบคุณทุกคน นี่คือการทำความดีด้วยหัวใจที่อยู่ข้างซ้ายของทุกคน ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ ถ้าถามว่ามีทหารตำรวจไว้ทำไม นี่คือคำตอบ จะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นคน ยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ มาจากหน่วยราชการทั้งสิ้น ทุกคนจะต้องมีการฝึกทำความเข้าใจในแผนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกคนรักกันให้มาก ๆ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ฝ่ายประชาชนคือหลักของประเทศ ถ้าเข้าใจบทบาทของตนเองในแต่ละบทบาททำให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรที่จะทำให้ประเทศคลอนแคลนลงไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศการลงพื้นที่ครั้งนี้  กลุ่มเพื่อน ๆ ของนายกรัฐมนตรี สมัยเรียนชั้นประถมโรงเรียน สหกิจวิทยา12 คน  นำโดยนางสุกัญญา พิมลพรรณ ได้มาพบเพื่อให้กำลังใจ พร้อมกับนำกระเช้า ผลไม้ส้มโอขาวแตงกวา  ปลาส้ม ไข่เค็ม มามอบให้ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้พบเพื่อนๆ ขอบคุณที่ให้กำลังใจ พร้อมกันนี้สอบถามถึงเพื่อนที่ผ่าตัดหัวเข่าว่าหายดีหรือยัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553