ศาลรัฐธรรมนูญ 14 ก.พ.-“เรืองไกร” ร้องศาลรัฐธรรมนูญ คัดค้านคำร้อง กกต. ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งในฐานะที่เป็นผู้สมัคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น. วันนี้ (14 ก.พ.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนา สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ไม่รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากกรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้าข่ายกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องจากเห็นว่า กกต.อาศัยเพียง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาใช้ในการลงมติและมอบหมายให้นายทะเบียนมายื่นคำร้อง อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการพิจารณาของ กกต.จะต้องมีการไต่สวน สอบสวนให้ผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิชี้แจงแสดงหลักฐาน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หมวด 2 การสืบสวน การไต่สวน และการดำเนินคดี และระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 แต่เมื่อไม่ดำเนินการ ย่อมอาจเข้าข่ายลักษณะกระทำการ หรือละเว้นการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 69 พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง และหากศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไป ย่อมอาจขัดต่อหลักนิติธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง กำหนดไว้
นายเรืองไกร กล่าวว่า ด้วยการกระทำของพรรคเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งคำว่าปฏิปักษ์ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง ฝ่ายตรงข้าม ข้าศึก ศัตรู ย่อมหมายความว่า พรรคไทยรักษาชาติอันอาจเป็นฝ่ายตรงข้าม หรือข้าศึก ศัตรู ต่อการปกครอง ซึ่งข้อเท็จจริงที่ กกต.นำมาพิจารณานั้น เป็นการตีความไปเองให้เกินเลยไปกว่าตัวหนังสือที่ปรากฏในพยานหลักฐาน
“คำร้องของ กกต.มีปัญหาไม่ชอบด้วยกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหากมีการนำคำว่า “ปฏิปักษ์” ไปวินิจฉัยตีความให้เกินเลยไปกว่าตัวหนังสือที่ปรากฏในพยานหลักฐาน จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณามีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือจำหน่ายคดี ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 โดยเร็ว” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร มั่นใจว่าการยื่นคัดค้านในครั้งนี้จะได้รับการพิจารณาจากที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้นายเรืองไกรยังอ้างว่าในฐานะที่เป็นผู้สมัคร หากพรรคถูกยุบ จะทำให้หมดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งทันที เนื่องจากไม่สามารถหาพรรคสังกัดได้ทัน.-สำนักข่าวไทย