สอน.เตรียมขอรัฐจัดสินเชื่อรถตัดอ้อยแก้ปัญหาไฟไหม้

กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – สอน.ยืนยันเป้าหมายเดิมจะไม่มีการเผาไร่อ้อยส่งหีบปี 2564 พร้อมใส่มาตรการช่วยเหลือ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติสินเชื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ดอกเบี้ยร้อยละ 1 เท่ากับเอสเอ็มอี จากปัจจุบันคิดร้อยละ 2 โดยขอรัฐชดเชยเพิ่มผ่อน 7 ปี อาจเพิ่มเป็น 10 ปี 



นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า สอน.คงเป้าหมายไม่มีอ้อยไฟไหม้ปี 2564 ซึ่งเป้าหมายนี้ตั้งในช่วงที่ประเทศไทยมีผลผลิตอ้อยฤดูการผลิตละประมาณ 90 ล้านตันอ้อยเท่านั้น แม้ขณะนี้ผลผลิตอ้อยจะเพิ่มเป็นฤดูการผลิตปีละกว่า 120 ล้านตันแล้วก็ตาม ซึ่งสถานการณ์อ้อยไฟไหม้ ล่าสุดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 57.05 ลดลงจากช่วงเดียวกันปี 2561 ที่อยู่ในระดับร้อยละ 60.45 ลดลงร้อยละ 3.4 


เลขาฯ สอน. กล่าวว่า เพื่อให้เป้าหมายไม่มีอ้อยไฟไหม้ปี 2564 เป็นไปได้ จึงเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือ โดยจะเสนอกระทรวงอุตสาหกรรมให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจรปี 2559-2561 ต่อเนื่องในปี 2562-2564 โดยจัดสรรวงเงินเพิ่มอีกปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 6,000 ล้านบาท แต่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง จากเดิมเกษตรกรผู้กู้รับภาระร้อยละ 2 ต่อปี เหลือร้อยละ 1 ต่อปี โดยภาครัฐชดเชยเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาใช้เงินจากกองทุนสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้ามาช่วยเหลือ เพราะถือเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมพิจารณาขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสินเชื่อจากเดิม 7 ปี อาจขยายเป็น 10 ปี ควบคู่ไปกับการลดดอกเบี้ย ซึ่งสินเชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เห็นชอบแล้ว

นางวรวรรณ กล่าวว่า หากไม่แก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้แล้ว เกษตรกรชาวไร่อ้อยจะกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชุมชนรอบข้าง ขณะที่โรงงานน้ำตาลก็ไม่ต้องการอ้อยไฟไหม้เช่นกัน เพราะคุณภาพลดลง ชาวไร่อ้อยก็ถูกตัดราคาลงจากคุณภาพอ้อยที่ลดลงจากไฟไหม้ตันละ 30 บาท

นอกจากนี้ ในการประชุมร่วมกับชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลวันนี้ (13 ก.พ.) ทาง สอน.ยังเสนอมาตรการลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ โดยระยะสั้นขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลรับอ้อยสดเข้าหีบในสัดส่วนร้อยละ 60 และอ้อยไฟไหม้ร้อยละ 40 ต่อวัน และให้มีมาตรการจูงใจ หรือส่งเสริมการตัดอ้อยสด ลดอ้อยไหม้ , ขอความร่วมโรงงานน้ำตาล สมาคมชาวไร่อ้อย และหน่วยงานในท้องถิ่นบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด 


ส่วนมาตรการระยะยาว ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลส่งเสริมชาวไร่คู่สัญญาทำแปลงอ้อยให้เหมาะสมกับการใช้เครื่องจักรอย่างครบวงจร หรือทำเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานหรือลดต้นทุนการผลิต, ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาล ส่งเสริมโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร หรือจัดทำโครงการเงินช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำ การค้ำประกันแบบกลุ่ม สำหรับชาวไร่อ้อยคู่สัญญารายเล็ก หรือโครงการสนับสนุนเครื่องจักรสำหรับการเกษตรครบวงจรให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เช่น  รถตัดอ้อยขนาดเล็ก เป็นต้น เบื้องต้นเสนอเครื่องตัดอ้อยที่เรียกว่า RAPTOR เข้ามาใช้แทนรถตัดอ้อยสำหรับเกษตรกรที่ไม่มีกำลังซื้อรถตัดอ้อย เพราะมีราคาถูกกว่ารถตัดอ้อยโดยมีราคาเพียงเครื่องละ 200,000-300,000 บาท และยังขอให้โรงงานน้ำตาลจัดทำแผนการลดไฟไหม้แต่ละฤดูกาลผลิตโดยความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการบริหารส่วนท้องถิ่น

นายมนตรี คำพล ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในอดีตผลผลิตอ้อยแต่ละฤดูกาลผลิตมีน้อยกว่า 100 ล้านตันอ้อย แต่ฤดูกาลผลิตปี 2560/2561 เพิ่มขึ้นถึง 134.5 ล้านตันอ้อย ชาวไร่อ้อยต้องประสบกับภาวะขาดแคลนแรงงานที่ใช้ในการตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาล จากอดีตใช้แรงงานจากภาคอีสานตัดอ้อยภาคกลาง ต่อมาแรงงานเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมก็หันไปใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ กัมพูชา เมียนมา และลาว  แต่ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านมีการลงทุนภาคอุตสาหกรรมแรงงานบางส่วนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมเช่นกัน แรงงานที่เข้ามาทำงานในไร่อ้อยจึงลดน้อยลง จึงจำเป็นต้องเผาไร่อ้อย เพื่อช่วยกระบวนการเก็บเกี่ยวอ้อย เนื่องจากมีเงื่อนเวลาเก็บเกี่ยวส่งเข้าโรงงานน้ำตาลเพื่อหีบในระยะเวลา 120 วัน ซึ่งปีที่ผ่านมาประสบปัญหาฝนตกตัดอ้อยไม่ทันมีอ้อยตกค้างในไร่ถึง 5 ล้านตันอ้อย อีกทั้งการตัดอ้อยสดแรงงานทำได้เพียง 100 กว่ามัดใน 1 วัน แต่ถ้าหากเผาด้วยไฟจะทำได้ต่อคนเพิ่มเป็นประมาณ 300 มัดต่อวัน มากกว่า 3 เท่าตัว ทั้งนี้ เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้เช่นกัน โดยต้องการเครื่องจักรเข้ามาใช้ ต้องการสินเชื่อสนับสนุนปีละประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทเป็นต้น 

นายเลียบ บุญเชื่อง ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน กล่าวว่า ด้วยระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อยแต่ละฤดูกาลที่มีระยะเวลาจำกัดและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพื่อช่วยลดอ้อยไฟไหม้ เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องการเครื่องจักรเข้ามาเสริมในกระบวนการเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อย แต่ไม่ได้เหมาะสมกับทุกพื้นที่ปลูกอ้อย ต่างจากต่างประเทศที่มีรางรถไฟเข้าถึงไร่อ้อยขนส่งสะดวก ทั้งนี้ ชาวไร่อ้อยไม่ต้องการให้อ้อยไฟไหม้แต่มีความจำเป็น แต่ปัจจุบันอ้อยไฟไหม้ลดลงจากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ

นายถนอม โพธิกุล นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยพยายามไม่ใช้วิธีการเผาไร่อ้อยเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อย แต่ด้วยข้อจำกัดแรงงานและระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่จำกัด และชาวไร่อ้อยที่นำอ้อยไฟไหม้ส่งโรงงานยังถูกตัดราคาลงตันละ 30 บาทด้วย  จาก 700 บาทต่อตันอ้อยเหลือ 670 บาทต่อตันอ้อย ดังนั้น แนวทางแก้ไข คือ การนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในกระบวนการเก็บเกี่ยวอ้อย แต่ราคาสูงคันละ 8-12 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรมีความสามารถจำกัดในการเป็นเจ้าของได้ จึงต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย