สอน.เตรียมขอรัฐจัดสินเชื่อรถตัดอ้อยแก้ปัญหาไฟไหม้

กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – สอน.ยืนยันเป้าหมายเดิมจะไม่มีการเผาไร่อ้อยส่งหีบปี 2564 พร้อมใส่มาตรการช่วยเหลือ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติสินเชื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ดอกเบี้ยร้อยละ 1 เท่ากับเอสเอ็มอี จากปัจจุบันคิดร้อยละ 2 โดยขอรัฐชดเชยเพิ่มผ่อน 7 ปี อาจเพิ่มเป็น 10 ปี 



นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า สอน.คงเป้าหมายไม่มีอ้อยไฟไหม้ปี 2564 ซึ่งเป้าหมายนี้ตั้งในช่วงที่ประเทศไทยมีผลผลิตอ้อยฤดูการผลิตละประมาณ 90 ล้านตันอ้อยเท่านั้น แม้ขณะนี้ผลผลิตอ้อยจะเพิ่มเป็นฤดูการผลิตปีละกว่า 120 ล้านตันแล้วก็ตาม ซึ่งสถานการณ์อ้อยไฟไหม้ ล่าสุดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ร้อยละ 57.05 ลดลงจากช่วงเดียวกันปี 2561 ที่อยู่ในระดับร้อยละ 60.45 ลดลงร้อยละ 3.4 


เลขาฯ สอน. กล่าวว่า เพื่อให้เป้าหมายไม่มีอ้อยไฟไหม้ปี 2564 เป็นไปได้ จึงเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือ โดยจะเสนอกระทรวงอุตสาหกรรมให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจรปี 2559-2561 ต่อเนื่องในปี 2562-2564 โดยจัดสรรวงเงินเพิ่มอีกปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 6,000 ล้านบาท แต่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง จากเดิมเกษตรกรผู้กู้รับภาระร้อยละ 2 ต่อปี เหลือร้อยละ 1 ต่อปี โดยภาครัฐชดเชยเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาใช้เงินจากกองทุนสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้ามาช่วยเหลือ เพราะถือเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมพิจารณาขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสินเชื่อจากเดิม 7 ปี อาจขยายเป็น 10 ปี ควบคู่ไปกับการลดดอกเบี้ย ซึ่งสินเชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เห็นชอบแล้ว

นางวรวรรณ กล่าวว่า หากไม่แก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้แล้ว เกษตรกรชาวไร่อ้อยจะกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชุมชนรอบข้าง ขณะที่โรงงานน้ำตาลก็ไม่ต้องการอ้อยไฟไหม้เช่นกัน เพราะคุณภาพลดลง ชาวไร่อ้อยก็ถูกตัดราคาลงจากคุณภาพอ้อยที่ลดลงจากไฟไหม้ตันละ 30 บาท

นอกจากนี้ ในการประชุมร่วมกับชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลวันนี้ (13 ก.พ.) ทาง สอน.ยังเสนอมาตรการลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ โดยระยะสั้นขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลรับอ้อยสดเข้าหีบในสัดส่วนร้อยละ 60 และอ้อยไฟไหม้ร้อยละ 40 ต่อวัน และให้มีมาตรการจูงใจ หรือส่งเสริมการตัดอ้อยสด ลดอ้อยไหม้ , ขอความร่วมโรงงานน้ำตาล สมาคมชาวไร่อ้อย และหน่วยงานในท้องถิ่นบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด 


ส่วนมาตรการระยะยาว ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลส่งเสริมชาวไร่คู่สัญญาทำแปลงอ้อยให้เหมาะสมกับการใช้เครื่องจักรอย่างครบวงจร หรือทำเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานหรือลดต้นทุนการผลิต, ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาล ส่งเสริมโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร หรือจัดทำโครงการเงินช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำ การค้ำประกันแบบกลุ่ม สำหรับชาวไร่อ้อยคู่สัญญารายเล็ก หรือโครงการสนับสนุนเครื่องจักรสำหรับการเกษตรครบวงจรให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เช่น  รถตัดอ้อยขนาดเล็ก เป็นต้น เบื้องต้นเสนอเครื่องตัดอ้อยที่เรียกว่า RAPTOR เข้ามาใช้แทนรถตัดอ้อยสำหรับเกษตรกรที่ไม่มีกำลังซื้อรถตัดอ้อย เพราะมีราคาถูกกว่ารถตัดอ้อยโดยมีราคาเพียงเครื่องละ 200,000-300,000 บาท และยังขอให้โรงงานน้ำตาลจัดทำแผนการลดไฟไหม้แต่ละฤดูกาลผลิตโดยความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการบริหารส่วนท้องถิ่น

นายมนตรี คำพล ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในอดีตผลผลิตอ้อยแต่ละฤดูกาลผลิตมีน้อยกว่า 100 ล้านตันอ้อย แต่ฤดูกาลผลิตปี 2560/2561 เพิ่มขึ้นถึง 134.5 ล้านตันอ้อย ชาวไร่อ้อยต้องประสบกับภาวะขาดแคลนแรงงานที่ใช้ในการตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาล จากอดีตใช้แรงงานจากภาคอีสานตัดอ้อยภาคกลาง ต่อมาแรงงานเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมก็หันไปใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ กัมพูชา เมียนมา และลาว  แต่ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านมีการลงทุนภาคอุตสาหกรรมแรงงานบางส่วนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมเช่นกัน แรงงานที่เข้ามาทำงานในไร่อ้อยจึงลดน้อยลง จึงจำเป็นต้องเผาไร่อ้อย เพื่อช่วยกระบวนการเก็บเกี่ยวอ้อย เนื่องจากมีเงื่อนเวลาเก็บเกี่ยวส่งเข้าโรงงานน้ำตาลเพื่อหีบในระยะเวลา 120 วัน ซึ่งปีที่ผ่านมาประสบปัญหาฝนตกตัดอ้อยไม่ทันมีอ้อยตกค้างในไร่ถึง 5 ล้านตันอ้อย อีกทั้งการตัดอ้อยสดแรงงานทำได้เพียง 100 กว่ามัดใน 1 วัน แต่ถ้าหากเผาด้วยไฟจะทำได้ต่อคนเพิ่มเป็นประมาณ 300 มัดต่อวัน มากกว่า 3 เท่าตัว ทั้งนี้ เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้เช่นกัน โดยต้องการเครื่องจักรเข้ามาใช้ ต้องการสินเชื่อสนับสนุนปีละประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทเป็นต้น 

นายเลียบ บุญเชื่อง ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน กล่าวว่า ด้วยระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อยแต่ละฤดูกาลที่มีระยะเวลาจำกัดและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพื่อช่วยลดอ้อยไฟไหม้ เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องการเครื่องจักรเข้ามาเสริมในกระบวนการเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อย แต่ไม่ได้เหมาะสมกับทุกพื้นที่ปลูกอ้อย ต่างจากต่างประเทศที่มีรางรถไฟเข้าถึงไร่อ้อยขนส่งสะดวก ทั้งนี้ ชาวไร่อ้อยไม่ต้องการให้อ้อยไฟไหม้แต่มีความจำเป็น แต่ปัจจุบันอ้อยไฟไหม้ลดลงจากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ

นายถนอม โพธิกุล นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยพยายามไม่ใช้วิธีการเผาไร่อ้อยเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อย แต่ด้วยข้อจำกัดแรงงานและระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่จำกัด และชาวไร่อ้อยที่นำอ้อยไฟไหม้ส่งโรงงานยังถูกตัดราคาลงตันละ 30 บาทด้วย  จาก 700 บาทต่อตันอ้อยเหลือ 670 บาทต่อตันอ้อย ดังนั้น แนวทางแก้ไข คือ การนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในกระบวนการเก็บเกี่ยวอ้อย แต่ราคาสูงคันละ 8-12 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรมีความสามารถจำกัดในการเป็นเจ้าของได้ จึงต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]