กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – ชาญอิสสระชี้ตลาดอสังหาฯ ปี 62 แข่งขันสูง ประเมินเกณฑ์ LTV ใหม่ กระทบตลาดกลางถึงล่าง
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะมีการแข่งขันสูงขึ้น พร้อมมองว่าการเมืองที่มีเสถียรภาพส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางดีขึ้น
สำหรับปัจจัยลบปี 2562 คือ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภค หนี้สินครัวเรือนของประชาชนระดับกลาง-ล่างเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สถาบันการเงินมีความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ และเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน ผู้ประกอบการจึงหันมาเน้นพัฒนาโครงการระดับบนมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันตลาดบนสูงขึ้นตามไปด้วย คาดปีนี้จะเห็นสินค้าใหม่ ๆ สู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น
ขณะที่มาตรการควบคุมสินเชื่อ (LTV) ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะประกาศใช้เดือนเมษายนนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะระดับกลางถึงล่าง ขณะที่ระดับบนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการศึกษาลูกค้ากลุ่มลักชัวรี่ พบว่า ผู้บริโภคต้องเลือกระหว่างการมีบ้านเดี่ยวที่มีเนื้อที่แต่อยู่ชานเมือง กับการเลือกอยู่ใจกลางเมือง เช่น ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแนวสูงมากกว่า 3 ชั้น หรือคอนโดมิเนียม โดยลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่มากเพียงพอ และมีขนาดพื้นที่แต่ละห้องใหญ่กว่าคอนโดมิเนียมหรือบ้านเดี่ยว รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงการต้องระดับพรีเมี่ยม
นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ Issara Residence Rama 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่ มีความเป็น Luxury Private เพียง 20 หลังเท่านั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ ประมาณ 9 ไร่ บริเวณถนนพระราม 9 ซอย 13 บนพื้นที่ดินขนาด 113-208 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 700 – 842 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งคลับเฮาส์ ฟิตเนสสระว่ายน้ำระบบเกลือ พื้นที่สวน พร้อมที่จอดรถ 4-8 คัน รวมถึงการให้บริการ Lifestyle Concierge Service บริการที่จะช่วยสร้างไลฟ์สไตล์ความเป็นส่วนตัว แบบเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ลูกบ้านภายในโครงการ อีกทั้งยังมีงานบริการด้านต่าง ๆ ไว้คอยดูแลและอำนวยความสะดวก อาทิ บริการด้านโฮมแคร์ ที่จะช่วยดูแลและบำรุงรักษาตั้งแต่เรื่องภายในบ้านและภายนอกบ้านอย่างครบครัน, บริการด้านสุขภาพที่ช่วยให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น, บริการด้านการจัดเลี้ยง จัดกิจกรรมที่ครบวงจร
นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีการนำระบบ Home Automation มาใช้ คือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านมาทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติอาศัยการควบคุมผ่านอินเทอร์เน็ต โดยการคอนโทรลผ่าน Mobile Application บน Smart Phone หรือ Tablet ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวก ปลอดภัย และช่วยประหยัดพลังงานได้ . – สำนักข่าวไทย