กทม. 9ก.พ.-พลเอกชวลิต ขอพรรคการเมือง อย่าดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง ทำการเมืองให้ดีก่อน ร่วมสร้างสรรค์รักษาประชาธิปไตย หวั่นประเทศเกิดความขัดแย้งซ้ำรอย เสนอตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลให้ทุกพรรคการเมืองหาทางออกร่วมกัน ปัดตอบ มีนายกรัฐมนตรีคนกลางในใจ โดยทุกฝ่ายเลือกกันเอง
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง ว่าประเทศไทยจะต้องสร้างประชาธิปไตยให้แข็งแรง เพื่อเป็นรากฐานของประเทศให้ดี ก่อนที่จะสร้างรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้คนเข้าใจผิด ไปให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญ มาเหนือประชาธิปไตย ดังนั้นการสร้างประชาธิปไตยจะต้องมาจากเป้าหมายที่ทำเพื่อประชาชน โดยประชาชน ให้กับประชาชนอย่างแท้จริง เท่านั้น เพราะหากจะมีการเรียกร้องอย่างไรก็ตามหากรากฐานไม่แข็งแรงก็จะเกิดการทะเลาะกันอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งปัจจุบันมีพรรคการเมืองมีเป็นจำนวนมาก ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้นมากตามมาด้วย
พลเอกชวลิต ยังกล่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันที่ผ่านมาว่าปัญหาเกิดจากพรรคการเมือง ที่อาจทำให้ เหตุการณ์จะรุนแรง ซ้ำรอยความขัดแย้งของประเทศอีกครั้ง ทำให้ประเทศเสียหายเพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนที่บางพรรคการเมือง มีการเสนอชื่อ พระบรมวงศ์ษานุวงศ์เข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมือง ขอว่าไม่ว่าการเมืองเป็นอย่างไร อย่าดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ คือหัวใจของชาติ
“เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการเมือง จะอย่างไรก็แล้วแต่ ขออย่าแตะบื้องบน ขออย่าบิดเบือนไปว่าพระองค์จะมาทำการเมืองหรือไม่ สถาบันพระมหากษัตริย์คือหัวใจของชาติ ซึ่งพระองค์ทราบปัญหาของปวงชนชาวไทยว่าคือเรื่องใด ก็ขอให้พรรคการเมืองทำการเมืองให้ถูกต้องก่อน และช่วยกันสร้างสรรค์ รักษาประชาธิปไตย “พลเอกชวลิต กล่าว
พลเอกชวลิต ยังได้กล่าวว่าเหตุการณ์ปัจจุบันยังคงมีความขัดแย้งและอาจก่อตัวไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นหากปล่อยให้มีการเลือกตั้งก็จะขัดแย้งแบบเดิมดังนั้นขอเสนอทางออกในขณะนี้ว่า ควรมีรัฐบาลเฉพาะกาลก่อนการเลือกตั้ง ที่ทุกพรรคจะต้องมาหารือหาทางออกร่วมกัน พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลเพียงคนเดียว และส่วนตัวไม่มีนายกรัฐมนตรีคนกลางในใจ รวมทั้งไม่ขอเสนอนายกรัฐมนตรีคนกลาง ส่วนจะเป็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่นั้นก็ขอให้ทุกไปเลือกกันเอง อย่างไรก็ตามหากมีการเสนอชื่อของตนเอง ก็ขอบอกว่าตนเองมีอายุมากแล้ว เว้นแต่จะมีรับสั่งให้ทำ
“ทุกฝ่ายต้องจับมือและหันหน้าพูดคุย ตั้งเป็นคณะกรรมการกลาง ที่จะมาจากทุกพรรคการเมือง จากนั้นตั้งนายกรัฐมนตรี เฉพาะกาลขึ้นมา ที่ควรเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำงานประมาน 8 เดือนถึง1ปี เป็นเวลาสั้นๆเท่านั้น เพราะหากปล่อยให้เลือกตั้งก่อนสถานการณ์บ้านเมืองก็จะกลับสู่วังวนเดิม และสิ่งที่พูดวันนี้เป็นเพียงข้อเสนอส่วนตัว ที่เป็นห่วงประเทศชาติ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายเหมือนในอดีต ทั้งนี้ส่วนตัวไม่มีความเห็นชื่อนายกรัฐมนตรีในใจ อยู่ที่ทุกฝ่ายตกลงกัน มองว่าใครๆก็มีความเหมาะสม ขอให้คุยกันได้ ทำงานร่วมกันได้ “พลเอก ชวลิต กล่าว.-สำนักงานข่าวไทย