กทม. 20 ธ.ค.-ผบ.ตร.สอบ “อนาวิน” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” รับสารภาพ บอกขอทำบุญให้ผู้เสียชีวิต คดีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 คน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยผลการจับกุมนายอนาวิน หรือ อั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, ร่วมสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้” พร้อมกับนายกฤติ หรือ ทิว อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหา “ร่วมสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)”
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า นายกฤติ ยังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ส่วนนายอนาวิน หรือ อั้ม ผู้ก่อเหตุยิง รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกับขอตำรวจว่า อยากจะทำบุญให้กับผู้เสียชีวิตด้วย
“นายอนาวิน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่า เริ่มออกมองหาเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.66 เวลา 22.00 น. แล้วไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียนที่ละแวกเขตดินแดง จากนั้นได้เริ่มหาเป้าหมาย โดยเริ่มจากละแวกร่มเกล้า แต่ไม่เจอ จึงไปจอดแอบกบดานละแวกคลอง 14 อยู่สักครู่ จากนั้นช่วงเช้าตรู่ได้เริ่มขับมาตระเวนหาเป้าหมายในเมือง จนกระทั่งเจอกลุ่มนักศึกษาอุเทนถวาย จึงลงมือก่อเหตุ”
นายอนาวิน ให้การว่า “ยิงปืนนัดแรก กระสุนพลาดเป้าไปโดนคนด้านหลัง ซึ่งก็คือ ครูเจี๊ยบ จากนั้นได้ยิงซ้ำที่คอและศีรษะ หลังจากนั้นได้หลบหนีไปทาง จ.พระนครศรีอยุธยา พ่นเปลี่ยนสีรถและทำลายรถ แล้วหลบหนีต่อไปที่ จ.อุบลราชธานี ก่อนจะขึ้นไปเชียงใหม่ และถูกจับที่บริเวณลานกางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย”
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝากถึงกลุ่มนักศึกษาที่มีพฤติกรรมเกาะกลุ่มเพื่อก่ออาชญากรรมในลักษณะนี้ด้วยว่า เวลาที่ถูกดำเนินคดี ไม่มีรุ่นพี่คนไหนมาช่วยเหลือ แต่ต้องช่วยเหลือตัวเอง การรับสารภาพหรือให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพื่อให้หนักเป็นเบา ดังนั้น ในช่วงวัยรุ่น ช่วงที่วุฒิภาวะต่ำ และถูกชักนำไปแบบนี้ คนที่เสียใจมากที่สุดคือพ่อแม่
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้สอบถามกับนายอนาวิน ด้วยว่า พ่อแม่ยังอยู่หรือไม่ นายอนาวิน บอกว่า ก็ยังอยู่และได้ทราบข่าวแล้ว ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ ตำรวจยังยืนยันว่า กลุ่มก้อนนี้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกเสมือนจริง สร้างเรื่องราวส่งต่อรุ่นน้องให้เกิดความเคียดแค้น จนเกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ผิดๆ และปลูกฝังกันแบบผิดๆ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุด้วยว่า นายอนาวิน ยังไม่มีรอยปั๊มเฟืองที่หัวไหล่ อยู่ระหว่างจะขึ้นระดับสอง หลังการก่อเหตุ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมถึงการขยายผลไปถึงกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
คดีนี้ตำรวจจับได้ทั้งหมด 24 คนแล้ว เหลืออีก 2 คนที่ยังหลบหนี นั่นก็คือ นายเลาะ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พานายอนาวินไปก่อเหตุ ซึ่งนายเลาะ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาเดียวกันกับนายอนาวิน ข้อหาหนักคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่อีกคนคือ นายรัชวุฒิ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีซ่องโจร ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามอย่างใกล้ชิด
“งานนี้ใช้หลายหน่วยงานมาก ทั้งพิสูจน์หลักฐาน ในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนามากที่สุด เพื่อทำลายเครือข่าย เพราะคนพวกนี้มีทีมทนายที่จะต่อสู้คดี หมายความว่า พยานหลักฐานตำรวจต้องแน่นหนาจริงๆ เราอยากทำแบบมืออาชีพ ให้ประชาชนวางใจตำรวจ”
ส่วนข้อมูลมาจากครอบครัวผู้เสียชีวิตที่พบพฤติกรรมของอีกฝ่ายโพสต์รูปภาพในลักษณะข่มขู่ เช่น โพสต์อาวุธปืน ตำรวจยืนยันว่าจะขยายผลต่อ พร้อมกำชับให้ตำรวจสืบสวนขยายผลไปดูพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักศึกษา และคดีเก่าของคู่กรณีด้วย จะต้องทำลายจอมปลวก ไม่ได้เอาแค่ปลวกที่มันบินออกมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
นอกจากนี้ยังระบุถึงมาตรการแก้ไขปัญหาในอนาคตว่า จะต้องพูดคุยกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งสถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษา ทั้งฝ่ายผู้ก่อเหตุและคู่กรณีจะต้องร่วมกันพูดคุยเรื่องนโยบายป้องกันการเกิดเหตุ ดีกว่ามาตามจับผู้ก่อเหตุหลังก่อเหตุอาชญากรรม
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่า ในคดีนี้มีบางคนยังมีสถานภาพเป็นนักศึกษา ดังนั้น การแก้ปัญหาและทำลายวัฒนธรรมองค์กรที่ผิดๆ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน แต่ก็ยอมรับว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นมานาน ในเมื่อมันเกิดขึ้นมานานแล้วยังดำรงอยู่ แปลว่าเราอาจจะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เราทำลายเครือข่ายแล้ว แต่วัฒนธรรมองค์กรยังอยู่ ทางออกอาจจะต้องมองถึงความเป็นไปได้เรื่องการย้ายที่ตั้งสถาบัน ต้องไม่อยู่ในที่ชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน แต่เรื่องนี้ในระยะยาว หลายหน่วยงานต้องช่วยกัน ไม่ใช่ตำรวจหน่วยเดียว
หลังจากที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน น.ส.พรพิมล มารดาของนายธนสรณ์ หรือ น้องหยอด ก็ได้เข้ามาขอบคุณที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ เป็นการทวงคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวของตน และขอให้ทลายเครือข่ายดังกล่าวให้สิ้นซากไปเสียที
สำหรับผลการปฏิบัติปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด จากปฏิบัติการตรวจค้นกวาดล้างทั้ง 3 ครั้ง ออกหมายจับผู้ต้องหา 26 คน จับกุมแล้ว 24 คน ยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายอับดุลเลาะ ดือราแม คนขี่รถจักรยานยนต์พานายอนาวินไปก่อเหตุยิง และนายรัชวุฒิ แก้วสว่าง ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาซ่องโจร ที่ร่วมอยู่ในขบวนการนี้
จากนั้นทางตำรวจได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เข้าไปในห้องสอบสวน เพื่อให้นายอนาวิน ผู้ต้องหา ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้แก่ครูเจี๊ยบ และน้องหยอด.-415.-สำนักข่าวไทย