“อนาวิน” รับยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ขอทำบุญให้

กทม. 20 ธ.ค.-ผบ.ตร.สอบ “อนาวิน” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” รับสารภาพ บอกขอทำบุญให้ผู้เสียชีวิต คดีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 คน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยผลการจับกุมนายอนาวิน หรือ อั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, ร่วมสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้” พร้อมกับนายกฤติ หรือ ทิว อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหา “ร่วมสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)”


ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า นายกฤติ ยังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ส่วนนายอนาวิน หรือ อั้ม ผู้ก่อเหตุยิง รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกับขอตำรวจว่า อยากจะทำบุญให้กับผู้เสียชีวิตด้วย

“นายอนาวิน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่า เริ่มออกมองหาเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.66 เวลา 22.00 น. แล้วไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียนที่ละแวกเขตดินแดง จากนั้นได้เริ่มหาเป้าหมาย โดยเริ่มจากละแวกร่มเกล้า แต่ไม่เจอ จึงไปจอดแอบกบดานละแวกคลอง 14 อยู่สักครู่ จากนั้นช่วงเช้าตรู่ได้เริ่มขับมาตระเวนหาเป้าหมายในเมือง จนกระทั่งเจอกลุ่มนักศึกษาอุเทนถวาย จึงลงมือก่อเหตุ”


นายอนาวิน ให้การว่า “ยิงปืนนัดแรก กระสุนพลาดเป้าไปโดนคนด้านหลัง ซึ่งก็คือ ครูเจี๊ยบ จากนั้นได้ยิงซ้ำที่คอและศีรษะ หลังจากนั้นได้หลบหนีไปทาง จ.พระนครศรีอยุธยา พ่นเปลี่ยนสีรถและทำลายรถ แล้วหลบหนีต่อไปที่ จ.อุบลราชธานี ก่อนจะขึ้นไปเชียงใหม่ และถูกจับที่บริเวณลานกางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย”

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝากถึงกลุ่มนักศึกษาที่มีพฤติกรรมเกาะกลุ่มเพื่อก่ออาชญากรรมในลักษณะนี้ด้วยว่า เวลาที่ถูกดำเนินคดี ไม่มีรุ่นพี่คนไหนมาช่วยเหลือ แต่ต้องช่วยเหลือตัวเอง การรับสารภาพหรือให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพื่อให้หนักเป็นเบา ดังนั้น ในช่วงวัยรุ่น ช่วงที่วุฒิภาวะต่ำ และถูกชักนำไปแบบนี้ คนที่เสียใจมากที่สุดคือพ่อแม่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้สอบถามกับนายอนาวิน ด้วยว่า พ่อแม่ยังอยู่หรือไม่ นายอนาวิน บอกว่า ก็ยังอยู่และได้ทราบข่าวแล้ว ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ ตำรวจยังยืนยันว่า กลุ่มก้อนนี้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกเสมือนจริง สร้างเรื่องราวส่งต่อรุ่นน้องให้เกิดความเคียดแค้น จนเกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ผิดๆ และปลูกฝังกันแบบผิดๆ


ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุด้วยว่า นายอนาวิน ยังไม่มีรอยปั๊มเฟืองที่หัวไหล่ อยู่ระหว่างจะขึ้นระดับสอง หลังการก่อเหตุ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมถึงการขยายผลไปถึงกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

คดีนี้ตำรวจจับได้ทั้งหมด 24 คนแล้ว เหลืออีก 2 คนที่ยังหลบหนี นั่นก็คือ นายเลาะ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พานายอนาวินไปก่อเหตุ ซึ่งนายเลาะ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาเดียวกันกับนายอนาวิน ข้อหาหนักคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่อีกคนคือ นายรัชวุฒิ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีซ่องโจร ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามอย่างใกล้ชิด

“งานนี้ใช้หลายหน่วยงานมาก ทั้งพิสูจน์หลักฐาน ในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนามากที่สุด เพื่อทำลายเครือข่าย เพราะคนพวกนี้มีทีมทนายที่จะต่อสู้คดี หมายความว่า พยานหลักฐานตำรวจต้องแน่นหนาจริงๆ เราอยากทำแบบมืออาชีพ ให้ประชาชนวางใจตำรวจ”

ส่วนข้อมูลมาจากครอบครัวผู้เสียชีวิตที่พบพฤติกรรมของอีกฝ่ายโพสต์รูปภาพในลักษณะข่มขู่ เช่น โพสต์อาวุธปืน ตำรวจยืนยันว่าจะขยายผลต่อ พร้อมกำชับให้ตำรวจสืบสวนขยายผลไปดูพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักศึกษา และคดีเก่าของคู่กรณีด้วย จะต้องทำลายจอมปลวก ไม่ได้เอาแค่ปลวกที่มันบินออกมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญ

นอกจากนี้ยังระบุถึงมาตรการแก้ไขปัญหาในอนาคตว่า จะต้องพูดคุยกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งสถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษา ทั้งฝ่ายผู้ก่อเหตุและคู่กรณีจะต้องร่วมกันพูดคุยเรื่องนโยบายป้องกันการเกิดเหตุ ดีกว่ามาตามจับผู้ก่อเหตุหลังก่อเหตุอาชญากรรม

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่า ในคดีนี้มีบางคนยังมีสถานภาพเป็นนักศึกษา ดังนั้น การแก้ปัญหาและทำลายวัฒนธรรมองค์กรที่ผิดๆ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน แต่ก็ยอมรับว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นมานาน ในเมื่อมันเกิดขึ้นมานานแล้วยังดำรงอยู่ แปลว่าเราอาจจะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เราทำลายเครือข่ายแล้ว แต่วัฒนธรรมองค์กรยังอยู่ ทางออกอาจจะต้องมองถึงความเป็นไปได้เรื่องการย้ายที่ตั้งสถาบัน ต้องไม่อยู่ในที่ชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน แต่เรื่องนี้ในระยะยาว หลายหน่วยงานต้องช่วยกัน ไม่ใช่ตำรวจหน่วยเดียว

หลังจากที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน น.ส.พรพิมล มารดาของนายธนสรณ์ หรือ น้องหยอด ก็ได้เข้ามาขอบคุณที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ เป็นการทวงคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวของตน และขอให้ทลายเครือข่ายดังกล่าวให้สิ้นซากไปเสียที

สำหรับผลการปฏิบัติปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด จากปฏิบัติการตรวจค้นกวาดล้างทั้ง 3 ครั้ง ออกหมายจับผู้ต้องหา 26 คน จับกุมแล้ว 24 คน ยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายอับดุลเลาะ ดือราแม คนขี่รถจักรยานยนต์พานายอนาวินไปก่อเหตุยิง และนายรัชวุฒิ แก้วสว่าง ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาซ่องโจร ที่ร่วมอยู่ในขบวนการนี้

จากนั้นทางตำรวจได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เข้าไปในห้องสอบสวน เพื่อให้นายอนาวิน ผู้ต้องหา ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้แก่ครูเจี๊ยบ และน้องหยอด.-415.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]