พาณิชย์ปรับเข็มทิศส่งออกไทยรับยุคดิจิทัล

กรุงเทพฯ 7 ก.พ. – กระทรวงพาณิชย์ปรับเข็มทิศส่งออกไทย ปี 2562 จับมือผู้เชี่ยวชาญสร้างโอกาสทางการค้า


สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนา”มองโลก มองไทย ทิศทางส่งออกปี 2562″ นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกไทยมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและสร้างรายได้เข้าประเทศปี 2561 ถึงกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยมีค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2558-2560 เท่ากับร้อยละ 61.7 แต่จากความเชื่อมโยงของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงการค้ามีความซับซ้อนมากขึ้น และสถานการณ์ทางการค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งยากต่อการคาดการณ์ ทำให้ภาคการส่งออกไทยกำลังเผชิญความผันผวนและไม่แน่นอน ซึ่งหลายครั้งที่นโยบายทางการค้าถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองและดำเนินนโยบายด้านอื่น ๆ เมื่อผสมกับความซับซ้อนของการเมืองโลก จึงส่งผลกระทบต่อการค้าโลกในวงกว้าง เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้นในฝั่งยุโรป รวมถึงการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ที่สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางการค้าของโลก

นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ส่องอนาคตการค้า ภายใต้ระเบียบโลกใหม่” โดยกล่าวว่า เราต้องเข้าใจระบบการเมืองโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงซึ่งระบบโลกเก่าเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1944 เช่น ธนาคารโลก,กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ ไอเอ็มเอฟและองค์กรการค้าโลกหรือ WTO แต่หลังจากนี้ไปโลกกำลังจะเข้าสู่ยุคดิจิทัล เราต้องปรับตัวให้ทัน สำหรับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนนั้น ขณะนี้จีนได้เปรียบดุลการค้ามากถึง 3 แสน 8 หมื่น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งคาดว่าในเดือนมีนาคม 2019 นี้ทั้งสองชาติน่าจะเจรจาเบื้องต้นกันได้และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 6.2% ในปีนี้


นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ประเทศทั่วโลกขณะนี้กำลังจับมือเป็นกลุ่มประเทศการค้าซึ่งมีทุกภูมิภาคทั่วโลก และปีนี้ไทยเป็นประธานอาเซียน เราต้องผลักดันวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียน 2025 ให้เป็นรูปธรรมคือ อาเซียน + 3 หมายถึง กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ + 3 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งจะทำให้เราแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

จนท.นำตัว “ซิงซิง” ถึง กทม.แล้ว ขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย

ยิงกระสุนยางสยบชายคลั่งทำร้ายภรรยา-จับลูก 5 ขวบ ขังในบ้าน

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง สยบชายคลั่งซ้อมภรรยา และจับลูกวัย 5 ขวบ เป็นตัวประกันขังไว้ในบ้าน ขู่ตัดสายแก๊สฆ่ายกครัว

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน