กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม 62 ดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังรัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน สงครามการค้าจีนกับสหรัฐมีสัญญาณดีขึ้น คาดไตรมาสแรกเศรษฐกิจไทยโตร้อยละ 3.5-4
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม 2562 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 80.7 เป็นผลจากการที่รัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจนวันที่ 24 มีนาคม 2562 และปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐเริ่มคลี่คลาย รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หลังจากใช้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VISA on Arrival เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ แม้ว่าผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงจากสงครามการค้าและ Brexit ตลอดจนราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ยังมีเม็ดเงินจากการเลือกตั้งที่น่าจะช่วยดึงให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3-0.5 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 2562 น่าจะขยายตัวร้อยละ 3.5-4 และจะค่อย ๆ ดีขึ้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงมองว่าปี 2562 เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวร้อยละ 4 – 4.2
อย่างไรก็ตาม การจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ไม่คึกคัก คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนประมาณ 3,700 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.17 ต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 2,318 บาท เนื่องจากสังคมปรับเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้มีการแสดงความรักผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งสินค้ามีราคาแพงขึ้น เศรษฐกิจไม่ดี และคู่รักต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ หากดูพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงวันมาฆบูชา คาดว่ามูลค่าเงินสะพัดอยู่ที่ 2,667 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.12 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 1,642 บาท เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ต้องกลับมาทำบุญ และสินค้ามีราคาสูงขึ้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น. – สำนักข่าวไทย