กรมสุขภาพจิต 5 ก.พ.-กรมสุขภาพจิต ห่วงผู้สนใจติดตามข่าวสารการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบอาการทางกาย จิตใจ และสัมพันธภาพต่อผู้อื่น แนะใช้ 5 วิธี แบ่งเวลาติดตามอย่างพอดี ทำกิจวัตรประจำวันให้ปกติ เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และผ่อนคลายความเครียด
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สถานการณ์ข่าวการเลือกตั้งกำลังเป็นที่สนใจของประชาชน หากมีการติดตามข่าวสารมากจนเกินไป อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการทางกายได้ เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตึงบริเวณขมับ ต้นคอหรือตามแขนขา ชาตามร่างกาย หายใจไม่อิ่ม อึดอัดในช่องท้อง แน่นท้อง ปวดท้อง ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติทั้งที่อยู่ในสภาพปกติ นอนไม่หลับ หลับๆตื่นๆ หรือหลับแล้วตื่นกลางคืนไม่สามารถหลับต่อได้
ส่วนอาการทางจิตใจ ได้แก่อาการวิตกกังวลครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาหงุดหงิดง่าย โกรธ ฉุนเฉียว ก้าวร้าว สมาธิไม่ดี ฟุ้งซ่านหรือหมกมุ่นมากเกินไป เบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง รู้สึกไม่มีทางออกและปัญหาพฤติกรรมและสัมพันธภาพกับผู้อื่น มีการโต้เถียงกับผู้อื่น หรือแม้แต่บุคคลในครอบครัวโดยใช้อารมณ์ตั้งแต่ปานกลางถึงรุนแรง โดยไม่สามารถยังยั้งตนเองได้ มีความคิดจะตอบโต้โดยใช้กำลังในการเอาชนะ มีการเอาชนะทางความคิดกับคนที่เคยมีสัมพันธภาพที่ดีมาก่อนจนทำให้เกิดปัญหาด้านสัมพันธภาพอย่างรุนแรง
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับการติดตามข่าวสารบ้านเมืองให้ห่างไกลความเครียดนั้น ให้ใช้หลัก 5 วิธีที่ควรปฏิบัติ ดังนี้ 1.แบ่งเวลาติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างพอดี โดยการติดตามข่าวสารไม่ควรติดตามต่อเนื่องนานเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพราะจะทำให้เครียดมากขึ้น
2.ทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติ หันเหความสนใจจากข่าวสารไปเรื่องอื่น ละเว้นการรับรู้ข่าวสารการเมืองบ้าง โดยหันไปทำหน้าที่ของตนเอง เรียนหนังสือ การทำงาน และการให้เวลากับครอบครัว
3.เคารพความคิดเห็นแบบประชาธิปไตยที่มีความแตกต่างหลากหลายได้ โดยไม่ดูข่าวหรือรับข้อมูลข่าวสารเพียงด้านเดียว จะทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง ควรเปิดกว้างและรับข้อมูลข่าวสารที่แตกต่าง
4.การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งการพักผ่อนจะทำให้ความเครียดลดลง
5.การผ่อนคลายความเครียด เช่น การออกกำลังกาย ฝึกโยคะ การทำสมาธิ ฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การฝึกหายใจคลายเครียด การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามหากอาการยังไม่ดีขึ้น เช่น ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มีความเครียดรุนแรงสามารถขอรับบริการปรึกษาที่สถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อหาทางแก้ไขที่เหมาะสม .-สำนักข่าวไทย