สธ.14พ.ค.-กรมสุขภาพจิตแนะเทคนิคการปรับตัวปรับใจต้อนรับเปิดเทอมใหม่ พ่อแม่ผู้ปกครองทำความเข้าใจพัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัยที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กในช่วงอนุบาลที่อาจมีปัญหามากที่สุด
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ช่วงเปิดเทอมใหม่ เป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กๆ ต้องปรับตัวกันอีกครั้ง หลังจากการหยุดยาวติดต่อกันมาหลายเดือน ซึ่งมักพบว่าปัญหาของเด็กเล็กใน ช่วงอนุบาล คือไม่อยากไปโรงเรียน หรืออาจยังไม่เคยไปโรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองควรมีความเข้าใจโดยเฉพาะพัฒนาการตามวัย ซึ่งธรรมชาติของเด็กแต่ละช่วงวัยมีอารมณ์และความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างเด็กเล็กๆ จะซึมซับบทบาทของพ่อแม่ การเรียนรู้อยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่พ่อแม่ผู้ปกครองมักมีความกังวลถึงการร้องไห้งอแง ไม่อยากไปโรงเรียนของลูกซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเด็กวัยนี้จะมีความกลัวและกังวลที่ต้องห่างจากพ่อแม่ อาจจะต้องให้เวลาในการปรับตัวกับเด็กในระยะแรก
หลังจากนั้นเด็กก็จะเรียนรู้ในการปรับตัวปรับใจ โดยพ่อแม่ต้องพูดให้ลูกเข้าใจถึงเหตุผลและประโยชน์ในการไปโรงเรียน ลูกต้องเรียนหนังสือกับเพื่อนๆ การแยกกันเป็นเรื่องของธรรมชาติ และพ่อแม่จะกลับมารับลูกในตอนเย็น เพื่อให้เด็กเกิดความสบายใจและมั่นใจ ตลอดจนชวนลูกให้เล่าถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเจอมาจากการไปโรงเรียนในแต่ละวันให้พ่อแม่ฟัง
สำหรับในกลุ่มเด็กโต ที่อยู่ชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา ซึ่งปัญหาการไม่อยากไปโรงเรียน จะมีความแตกต่างจากกลุ่มของเด็กเล็กที่เกิดจากการต้องห่างไกลจากพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่ปัญหากลุ่มเด็กโตจะมีหลายสาเหตุ อาจเป็นเรื่องของการเรียนรู้ เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง มีปัญหาการอ่าน การเขียน การคำนวณ หรืออาจมีปัญหาในเรื่องการปรับตัวกับกลุ่มเพื่อนใหม่ หรือแม้กระทั่งในวัยอุดมศึกษา ก็อาจจะเครียดและกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปรับตัวในการเปลี่ยนแปลงสถานที่ใหม่เช่นเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ไม่อยากไปเรียนหนังสือ ท้อแท้ หมดกำลังใจจะเรียนหนังสือต่อ
อย่างไรก็ตามหากค้นพบว่าปัญหาการเรียนของลูกคือสิ่งใด พ่อแม่ผู้ปก ครองควรให้กำลังใจ ให้การช่วยเหลือ และแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ มีการพูดคุยกับลูกให้บ่อย จะทำให้สิ่งเหล่านั้นดีขึ้น ทำให้เด็กสามารถปรับตัวได้ดี รวมทั้งจะมีความสุขกับการไปโรงเรียนมากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ หากพ่อแม่ผู้ปกครองและลูก ยังมีความเครียดมาก แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น หรือสามารถโทรศัพท์ขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย