นายกฯ พบกลุ่มเกษตรกร ขับเคลื่อนเศรษกิจฐานราก

ทำเนียบฯ 31 ม.ค.-นายกฯ พบกลุ่มเกษตรกร มอบสมุดปกขาวขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สู่แนวทางการปฏิบัติ ยันรัฐบาลเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ประชาชน แก้ปัญหาการเกษตร-ที่ดินทำกิน ทำมากกว่าทุกรัฐบาล ชี้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ปัญหาให้ประชาชน วอนเกษตรกรอย่าให้ใครหาประโยชน์ทางการเมืองโดยเด็ดขาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พบกับเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนรายย่อย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สู่แนวทางการปฏิบัติ Local Economy  in Action และรับฟังการนำเสนอและรับมอบสมุดปกขาวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สู่แนวทางปฏิบัติจากตัวแทนกลุ่มบริหารจัดการน้ำชุมชน ตัวแทนเกษตรกรสภาเกษตรกรแห่งชาติ กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรายย่อย เป็นต้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ว่า ดีใจที่ได้มาพบปะกับตัวแทนเกษตรกร ซึ่งการมาพบกันลักษณะนี้ ดีกว่าจะไปยืนชุมนุมนอกรั้วทำเนียบรัฐบาล ซึ่งการเมืองไม่อาจแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่อยู่ที่ทุกคนจะร่วมมือกัน ขณะนี้มีศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด จะรวบรวมข้อเสนอจากเกษตรกร เสนอให้กระทรวงมหาดไทย เป็นข้อมูลต่อไป จึงอยากให้ใช้ช่องทางนี้ ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว แต่มีคนมาพูดบิดเบือน ทำให้เข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้นขออย่าไปฟัง


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีคนรับคำท้าจะไปอยู่ชายแดนกับตน ซึ่งเรื่องของชายแดน ไม่ได้มีแต่เพียงการสู้รบตามแนวชายแดน ยังมีปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาค้ามนุษย์ ปัญหาการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี และปัญหายาเสพติด แต่มีการไปพูดกันทำให้เกิดความเข้าใจผิด เป็นประเด็นการเมือง ยืนยันรัฐบาลเข้ามาเพื่อที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ 

ขณะที่การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ที่ดิน สปก.นำไปขายต่อไม่ได้ แต่บางพื้นที่อาจไม่เหมาะกับการทำการเกษตร ต้องพยายามปลดล็อก แต่เกษตรกรก็ยังไม่ยอม จะทำการเกษตรทั้งที่ไม่เหมาะสม และเมื่อได้รับความเดือดร้อน ก็มาร้องรัฐบาลให้ช่วย ส่วนปัญหาการเช่าที่ดินทำกินที่ร้องเรียนว่ายังเป็นอุปสรรคของเกษตรกร เนื่องจากหากยังต้องเช่าที่ดิน จะเกิดต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นนั้น ขอให้ร้องเรียนไปยังภาครัฐหากถูกรังแกโดยไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม เกษตรกรต้องกล้าเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งนี้อยากให้ข้าราชการท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัดมีข้อมูลในพื้นที่ของตนเองนำไปสู่การแก้ปัญหาให้ถูกจุด และต้องกล้าที่จะแก้ปัญหาทุจริต หากมีข้อมูลต้องกล้าที่จะแจ้งความ

“ปัญหาการเกษตร เป็นส่วนหนึ่งของหลายปัญหาในประเทศที่ต้องขับเคลื่อนกันไป อย่าแย่งกันคิด อย่าแย่งกันทำ อย่าให้ใครมาใช้ชื่อเกษตรกรมาหาประโยชน์ทางการเมืองโดยเด็ดขาด และหากไม่ทำตามแนวทางที่รัฐบาลวางไว้ จะไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ร้อยเปอร์เซนต์ ขอยืนยันว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ต้องพูดแต่ปัญหาแบบเดิม แต่ไม่ได้ทำทั้งระบบ เหมือนแนวทางนี้ อย่างเรื่องน้ำ เรื่องที่ดิน อย่าไปฟังใครเขาพูดว่าจะทำให้ได้ครบครอบคลุม ทั้งที่รัฐบาลนี้มา 4-5 ปี ทำมาตลอด ทำมากกว่าทุกรัฐบาล ยังไม่สามารถทำได้ครอบคลุม ดังนั้นขอเกษตรกรอย่าตกเป็นเครื่องมือฝ่ายการเมือง และอย่าให้มีการนำเรื่องบริหารจัดการน้ำมาเป็นเรื่องการเมือง” นายกรัฐมนตรี กล่าว


สำหรับการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้คนตกใจทั้งประเทศ มีการใช้ประเด็นนี้มาโจมตีทางการเมือง กล่าวหาว่าดีแต่พ่นน้ำ ทั้งที่มีหลายมาตรการดำเนินการแล้ว ตั้งด่านตรวจสอบรถบรรทุกก่อนเข้ากรุงเทพฯ ติดสติกเกอร์รถยนต์ที่วิ่งได้และห้ามวิ่ง รวมถึงการให้รถเก่าที่ใช้น้ำมันดีเซล หรือรถวิ่งวันคู่-คี่ การพิจารณามาตราการที่จะนำมาใช้ต้องดูผลกระทบกับคนที่มีรายได้น้อยด้วย 

ส่วนกรณีกระแสข่าวไอเป็นเลือด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สอบถามโรงพยาบาล พบว่าส่วนหนึ่งเกิดจากอาการโรคไข้หวัดใหญ่ จึงทำให้ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ส่วนการปิดโรงเรียน เพราะเด็กมีภูมิต้านทานต่ำกว่าผู้ใหญ่ ขอยืนยันว่ารัฐบาลแก้ปัญหารอบด้าน แต่จะไม่สร้างภาพและไม่สวมหน้ากากอนามัยเพื่อแถลงข่าว เพราะมองว่าเป็นเพียงการสร้างภาพ แต่รัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างอย่างเต็มที่

“ที่ผ่านมาถูกกล่าวหา นายกรัฐมนตรีได้เปรียบทางการเมือง ทั้งที่ยังไมได้ลงเล่นการเมือง ซึ่งผมได้ระมัดระวังตัวอย่างเต็มที่ ขอย้ำรัฐบาลหน้าต้องปรองดองทุกพรรคการเมืองได้ ทุกคนต้องปรองดองกัน เลือกตั้งแล้วมาเดินขบวนกันอีกไม่ได้ มาตีกันอีกไม่ได้ ต้องปรองดองกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฝากขังทิดแย้ม

ฝากขัง-ค้านประกัน “ทิดแย้ม” และพวก ยักยอกเงินวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พร้อมพวกอีก 2 คน ไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว คดียักยอกเงินวัดเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเวลา 10.39 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” และหญิงคนสนิทออกจากห้องควบคุม ขึ้นรถตู้ นำตัวไปฝากขัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน โดยทั้ง 2 มีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ตอบคำถามและให้สัมภาษณ์ใดๆ เมื่อทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นได้นำไปเล่นการพนันหรือไม่ และเงินจำนวนทั้งหมดเป็นเงินของวัดหรือไม่ “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ยกมือแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธไม่ขอพูด และไม่ขอตอบคำถามใดๆ พร้อมกับเดินอย่างสงบนิ่งขึ้นรถตู้ออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่การสอบปากคำทั้งคู่ ยังคงให้การภาคเสธ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้คัดค้านการประกันตัว ทั้ง 2 เนื่องจากเป็นคดีเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต มูลค่าความเสียหาย จำนวนมาก อีกทั้งหากได้รับการประกันตัวหวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนีคดี ซึ่งยากต่อการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในภายหลัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทนายความพร้อมกับลูกศิษย์ เตรียมคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ยื่นขอประกันตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” เช่นเดียวกับหญิงคนสนิททางญาติก็เตรียมคำร้องพร้อมกับหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย

‘ยุน ซ็อก-ยอล’ อดีต ปธน.เกาหลีใต้ ลาออกจากพรรคพีพีพี

โซล 17 พ.ค. – นายยุน ซ็อก-ยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งกล่าววันนี้ว่า เขากำลังจะลาออกจากพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ที่มีแนวนโยบายอนุรักษ์นิยม นายยุน ซึ่งประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปี่ที่แล้ว และต่อมาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ได้รับเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคพีพีพีให้เขาลาออกจากตำแหน่งเพื่อเรียกเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่มีแนวนิยมสายกลาง ซึ่งไม่มองการกระทำของของนายยุนออกไปในเชิงลบ นายยุน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า เขาขอแสดงความขอบคุณต่อสมาชิกพรรคและเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจและสนับสนุนเขา แม้ว่าเขาจะมีข้อบกพร่อง แต่โปรดสนับสนุนนายคิม มุน-ซู ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคพลังประชาชน การประกาศลาออกจากพรรคของนายยุน เกิดขึ้นในขณะที่นายคิมมีคะแนนตามหลังนายอี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคเสรีประชาธิปไตยอย่างมาก จากผลสำรวจความคิดเห็นของกัลลัปเกาหลี ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายนนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

คุมฝากขัง “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจไซเบอร์คุมตัว “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ไปขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขัง พร้อมบอกตอนนี้ตัวใครตัวมัน เมื่อเวลา 08.45 น. พนักงานสอบสวน ตำรวจไซเบอร์ สอท.3 เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เบิกตัวนายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ พระคนสนิท อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.68 ข้อหา “พ.ร.บ.การพนันร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐามผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขัง ทั้งนี้ ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถ นายเอกพจน์ เปิดเผยว่า อดีตเจ้าวาสวัดไร่ขิงหรือทิดแย้มให้กดเงินและโอนเงินให้กับนางสาวธัญญวัฒน์ จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร โดยโอนให้หลายครั้ง แต่ละครั้งก็หลักล้าน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตอนนี้ยังนับถืออดีตเจ้าคุณแย้มหรือไม่ หรือไม่ นายเอกพจน์ตอบว่าตอนนี้ตัวใครตัวมัน ก่อนจะขึ้นรถควบคุมตัวไปที่ศาลอาญารัชดา .-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 17 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคของไทยมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย