กระทรวงกลาโหม 2 ก.ย. –“พล.อ.ประวิตร” ระบุผู้ที่จะทำหน้าที่เลขาธิการ ศอ.บต.คนใหม่ ต้องรู้เรื่องและเคยทำงานในพื้นที่ ยอมรับมีคนในใจแล้ว เป็นข้าราชการพลเรือน ขณะเดียวกัน ระบุตัวแทนรัฐบาลส่วนหน้าในการประสานงานในพื้นที่ชายแดนใต้ ไม่ใช่ “พล.อ.ธีรชัย นาควานิช”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.คนใหม่ ต้องรู้เรื่องเก่าและเคยทำงานในพื้นที่ จึงจะสามารถทำงานได้ ซึ่งมีคนในใจแล้ว และต้องเป็นข้าราชการพลเรือน ไม่ใช่ทหาร เพราะทหารรับผิดชอบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า อยู่แล้ว ส่วนการปรับการทำงานของ ศอ.บต. ตนเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ส่วนการส่งตัวแทนรัฐบาล 10 คนเป็นส่วนหน้าเพื่อประสานงานในพื้นที่ชายแดนใต้นั้น จะส่งไปช่วงต้นเดือนตุลาคม หรือในปีงบประมาณใหม่นี้ โดยขอไม่เปิดเผยตัวบุคคล แต่ขอยืนยันว่าไม่ใช่ พล.อ.ธีรชัย นาควาณิช ผู้บัญชาการทหารบก
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้ ว่า มีความคืบหน้าไปมาก และได้ออกหมายจับแล้วหลายราย แต่ยังเชื่อว่าไม่ได้เป็นการขยายความรุนแรงจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า ส่วนที่นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเดินทางมาหารือทวิภาคีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 กันยายนนี้ ตนได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบหมดแล้ว โดยจะเป็นการหารือในระดับนายกรัฐมนตรี จึงไม่ทราบว่าจะมีการหยิบยกเรื่องใดมาหารือ
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางการมาเลเซียขอให้ไทยส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา 10 คน ว่า กำลังดูข้อกฎหมายว่ามีความผิดอะไร ส่วนกรณีที่ทางการมาเลเซียระบุว่าผู้ต้องหาทั้ง 10 คนมีสัญชาติไทย ต้องขอตรวจสอบก่อน แต่ถ้าเป็นไปตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ก็พร้อมดำเนินการให้ทันที.-สำนักข่าวไทย