มาตรการ “ช้อปคืนภาษี” ตรุษจีน 2562

กทม. 21 ม.ค.- รัฐบาลออกมาตรการ “ช้อปคืนภาษี” ช่วงตรุษจีน กระตุ้นใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต และพร้อมเพย์ 


วันนี้คลุกข่าวเล่าประเด็น เอาใจคนชอบชอปปิ้ง โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีน ที่กำลังมาถึง ตามที่รัฐบาลใช้โอกาสเทศกาลตรุษจีน กระตุ้นการใช้จ่าย และส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบมาตรการไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุด กรมบัญชีกลางได้แจ้งยอดร้านค้าและสาขาที่เข้าร่วมโครงการ และแจ้งช่องทางให้ประชาชนรับทราบเงื่อนไข และช่องทางการลงทะเบียน ร่วมโครงการ ย้ำหากจะร่วมโครงการต้องลงทะเบียน

           


รายละเอียดของมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย ในระหว่างวันที่ 1 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตชำระค่าสินค้า วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท จะได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT 5% หรือคืนเป็นเงินไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน สำหรับผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังประเมินว่าผลของมาตรการนี้ จะทำให้รัฐขาดรายได้ภาษีไม่เกิน 10,000 ล้านบาท  


ล่าสุด กรมบัญชีกลางได้ชี้แจงมาตรการ กิน ช้อป เที่ยว เทศกาลตรุษจีน นายสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง บอกว่า เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางได้จัดประชุมชี้แจง เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการไปยังผู้ประกอบการร้านค้า ที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการต่างๆ ที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีความประสงค์เข้าร่วมมาตรการฯ เช่น สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และบริษัทตัวแทนห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกต่างๆ 

             


ล่าสุด มีจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมมาตรการกับกรมบัญชีกลางแล้ว จำนวน 34 ร้านค้า ซึ่งมีจำนวนสาขา 5,435 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่รวมจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่รับสมัครจากสำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด  โดยกรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัด จะรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมมาตรการจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2562  เพื่อให้ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลายและกว้างขวาง เพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ประชาชนที่ซื้อสินค้าหรือบริการในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยการชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่รวมถึงการชำระโดยบัตรเครดิต และการชำระค่าสินค้าของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวย้ำว่า สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายอื่นๆ ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มการสมัครได้ทางเว็บไซต์ www.cgd.go.th ถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 ในส่วนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมมาตรการฯ สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.epayment.go.th โดยขณะนี้ ยอมรับว่าจำนวนประชาชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการยังน้อยมาก จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้ลงทะเบียนสมัครเพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการนี้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่สมัครลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้วแจ้งผู้ประกอบการร้านค้า ณ จุดการชำระเงิน ด้วยว่าเป็นการซื้อสินค้าและบริการตามมาตรการดังกล่าว ขณะเดียวกันขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการให้สอบถามประชาชนก่อนดำเนินการชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการอย่างครบถ้วนสมบูรณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน