กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – กรมฝนหลวงฯ เตรียมขึ้นบินปฏิบัติการบ่ายนี้ หลังค่าดัชนีการยกตัวของเมฆอยู่ในเกณฑ์ดี ลดฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จังหวัดระยอง เตรียมเครื่องบินคาซ่า 2 ลำ เพื่อจะนำโซเดียมคลอไรด์หรือเกลือแกงบรรทุกลำละ 1 ตันขึ้นบินปฏิบัติการในช่วงบ่าย โดยเช้านี้ค่าดัชนีค่าการยกตัวของเมฆอยู่ในเกณฑ์ดีมาก คือ -4.2 ซึ่งค่าการยกตัวของเมฆที่ติดลบจะเอื้อให้เมฆพัฒนาตัวในแนวตั้งได้ดี
สำหรับความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศที่จังหวัดนครนายกและฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติการที่ความสูง 5,000 – 10,000 ฟุต ร้อยละ 70.5 เหมาะสมที่จะขึ้นปฏิบัติการขั้นก่อกวนหรือสร้างแกนเมฆได้ แต่ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศชั้นบนที่ความสูง 10,000 – 15,000 ฟุต กลับลดต่ำลงกว่าเมื่อวาน โดยอยู่ที่ร้อยละ 45.1 ซึ่งค่าที่เหมาะสมจะทำให้เมฆพัฒนาตัวได้ต้องมากกว่าร้อยละ 60 ทั้งนี้ เป็นผลจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาถึงภาคกลาง ซึ่งมวลอากาศเย็นนี้มีความหนักจะกดไม่ให้อากาศอุ่นยกตัวขึ้น ดังนั้น จึงจะทำให้เมฆไม่พัฒนาตัวในแนวตั้ง โดยหวังว่าระหว่างวันนั้นพลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยให้สภาพอากาศอุ่นขึ้นจนเมฆจึงเริ่มก่อตัว และความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศชั้นบนสูงขึ้นจนทำให้เมฆพัฒนาตัวดี ซึ่งจะติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ทันทีที่พบว่าเหมาะสมจะขึ้นปฏิบัติการทันทีแล้วให้กระแสลมตะวันออกพัดพาเมฆมาตกเป็นฝนในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม ซึ่งยังคงเดือดร้อนจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลต่อสุขภาพ จึงกำชับให้ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องและเตรียมพร้อมทุกวัน ไม่มีวันหยุด พร้อมกันนี้ได้รายงานไปยังนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าได้ให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดนครสวรรค์พร้อมปฏิบัติการ เนื่องจากขณะนี้นอกจากกระแสลมตะวันออกแล้ว ยังพบว่าเริ่มมีกระแสลมตะวันตกพัดเข้ามาด้วย หากพบว่าต้นลมบริเวณใดเหมาะสมที่จะขึ้นไปสร้างแกนเมฆ นักวิทยาศาสตร์จะขึ้นเครื่องบินมาปฏิบัติการเพื่อให้เกิดเป็นฝนตกในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงทันที.-สำนักข่าวไทย