กรมโยธาฯ เน้นย้ำ “มาตรการป้องกันฝุ่นละออง”

กรุงเทพ 23 ม.ค.- กรมโยธาธิการและผังเมือง เน้นย้ำ “มาตรการป้องกันฝุ่นละออง” ในการก่อสร้างอาคาร กำชับผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการฯ อย่างเคร่งครัด กันล้อมพื้นที่ก่อสร้าง -ปิดคลุมวัสดุ-ฉีดพรมน้ำ-เทคโนโลยี แก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ ลดฝุ่น PM 2.5


นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นอันดับต้น ๆ โดยมีการตั้งคณะกรรมการแห่งชาติด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผา ในที่โล่ง หมอกควัน และฝุ่นละออง ให้เป็นไปตามกลไกการบริหารจัดการทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำงานเชิงรุก ใช้กลไกและกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้ทุกหน่วยงานนำไปปรับใช้ เพื่อกำหนดมาตรการให้มีความเข้มข้นและเป็นรูปธรรม

จากปัญหาเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นตามความเจริญของเมือง เนื่องด้วยมีการก่อสร้างต่าง ๆ มากมาย จนส่งผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน กรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการออกกฎหมายควบคุมอาคาร จึงได้ออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ.2563) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เพื่อเป็นหนึ่งในกฎหมายป้องกันฝุ่นที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร มีความครอบคลุมในเรื่องการฟุ้งกระจายของฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้างอาคาร ตลอดจนถึงรถที่ใช้ขนวัสดุในการก่อสร้างอาคาร โดยเนื้อหาของกฎหมายเรื่องของฝุ่นละอองมีดังนี้


การก่อสร้างอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 10.00 เมตรขึ้นไป ที่มีระยะราบวัดจากแนวอาคารด้านนอก ถึงที่สาธารณะหรือที่ดินต่างเจ้าของหรือผู้ครอบครองน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของความสูงของอาคารนั้น หรืออาคารซึ่งอยู่ในโครงการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน ผู้ดําเนินการต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันฝุ่นละออง ดังต่อไปนี้
(ก) กันล้อมอาคารด้วยวัสดุหรืออุปกรณ์ที่สามารถป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองที่เกิดจากการก่อสร้าง
(ข) กองวัสดุที่มีฝุ่นละอองต้องปิดหรือคลุมด้วยวัสดุหรืออุปกรณ์ที่สามารถป้องกันการฟุ้งกระจาย หรือเก็บไว้ในพื้นที่ปิดล้อมหรือฉีดพรมด้วยน้ำหรือวิธีการอื่นที่ป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง
(ค) การขนย้ายวัสดุที่ทําให้เกิดฝุ่นละอองด้วยสายพานต้องปิดให้มิดชิด
(ง) การผสมคอนกรีต การไสไม้ การกระทําใด ๆ ที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง ต้องทําในพื้นที่ปิดล้อมหรือมีผ้าคลุม หรือใช้วิธีการป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง
(จ) มีการจัดการวัสดุที่เหลือใช้เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง
(ฉ) ฉีดล้างล้อรถทุกชนิดด้วยน้ำก่อนนําออกนอกบริเวณสถานที่ก่อสร้างเพื่อมิให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายและไม่ให้น้ำที่ใช้ในการฉีดล้างดังกล่าวไหลออกนอกบริเวณสถานที่
ทั้งนี้ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองมีความเกี่ยวข้องในหลายมิติ กฎกระทรวงดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการ ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารเท่านั้น ซึ่งยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง กับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอีกด้วย

กรมโยธาธิการและผังเมือง ตระหนักและให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเป็นอย่างมาก พร้อมจับมือร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งระดับบุคคล สังคม และนโยบายระดับประเทศ เพื่อช่วยกันเปลี่ยนแปลงโลกไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น .-316 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]