กทม. 15 ม.ค.-คับข่าวมีของ ชวนคุยเรื่องใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ด้านหนึ่งกรมการขนส่งทางบก บอกเริ่มใช้วันนี้ แต่ทางตำรวจมองอีกมุมหนึ่ง แล้วประชาชนจะทำอย่างไร
แนวคิดการใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ของกรมการขนส่งทางบก ทางนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก บอกว่า โครงการ DLT Smart Licence ถือเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ที่อาจจะไม่ต้องพกพาใบขับขี่อีก โดยย้ำว่า มีระบบรักษาความปลอดภัยและกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และถือเป็นการพัฒนารูปแบบใบอนุญาตขับรถสู่รูปแบบอิเล็ก ทรอนิกส์ 4.0 หรือ Electronic Driving Licence เป็นทางการ
แต่ก่อนอื่น คนที่สนใจจะใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ต้องไปดูที่ใบขับขี่ของตัวเองก่อน เพราะต้องเป็นใบขับขี่ที่มี QR Code ด้านหลังบัตร เพราะจะต้องใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชัน “DLT QR Licence” และจะปรากฏใบอนุญาตขับรถอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเสมือนจริงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมมีระบบแจ้งเตือนให้ต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้า รวมทั้งมีข้อมูลอื่นๆ เช่น ประวัติแพ้ยา, กรุ๊ปเลือด, โรคประจำตัว, สิทธิรักษาพยาบาล, เป็นเสมือนที่เก็บเอกสารที่ใช้ในยามฉุกเฉินได้ ส่วนผู้ที่ใบขับขี่ไม่มี QR Code หากต้องการจะใช้ ต้องไปขอเปลี่ยน เป็นใบขับขี่ที่มี QR Code ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ มีค่าธรรมเนียม 105 บาท
ประโยชน์สำหรับการใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์คือ ความสะดวกสบาย การใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวก แต่ในมุมของตำรวจ ที่ต้องเป็นผู้ตรวจสอบใบขับขี่ของผู้ที่ขับขี่ยานพาหานะ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกตรวจทั่วไป หรือกรณีที่ผู้ถือทำผิดกฎจราจร ออกมาระบุถึงการใช้งาน แอปพลิเคชัน “DLT QR Licence” ว่า ยังใช้แทนใบขับขี่ไม่ได้
โดย พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ถึงแม้จะเห็นด้วยกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่ในทางปฏิบัติการเรียกตรวจผู้ขับขี่ ที่กระทำความผิดกฎหมายจราจร ผู้ขับขี่จะต้องแสดงใบอนุญาตขับขี่ต่อเจ้าพนักงานตำรวจจราจร และหากกระทำผิดจริง ตำรวจมีอำนาจยึดใบอนุญาตขับขี่และออกใบสั่งให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับตามกฎหมาย โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 140 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบกปี 2522 ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขเรื่องการยกเลิกเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ เพื่อให้รองรับ.-สำนักข่าวไทย