ขอนแก่น 15 ม.ค.-เมรุลอยหลวงพ่อคูณ นกหัสดีลิงค์เทินบุษบก หรือเทินหอแก้ว เสร็จสมบูรณ์ 100% เหลือเพียงประดับตกแต่งโดยรอบ คาดจะแล้วเสร็จในวันที่ 19 ม.ค.62 ก่อนให้ประชาชนเข้าชมวันที่ 22-28 ม.ค.62
รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า ได้ให้โจทย์ทีมงานในการปรับพื้นที่โดยรอบเมรุลอยหลวงพ่อคูณให้เป็นสีขาว รวมทั้งเลือกดอกไม้สดมาประดับตกแต่ง บริเวณที่เป็นป่าหิมพาน ซึ่งส่วนสำคัญที่สุด คือนกสักกะไดลิง หรือนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก หรือภาษาอีสานเรียกว่าเทินหอแก้ว ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ 100% เหลือส่วนที่เป็นองค์ประกอบของป่าหิมพาน ทั้งสัตว์ป่า และสระอโนดาด ที่สามารถเก็บน้ำได้จริง โดยจะมีการประดับตกแต่งไฟแสงสี เพื่อให้เกิดความสวยงาม ซึ่งภาพรวมขององค์ประกอบเหล่านี้ อยู่ที่ 90-95% คาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จในวันที่ 19 มกราคมนี้ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมในวันที่ 22-28 มกราคมนี้
สำหรับการออกแบบนั้น ดร.ยุทธพงษ์ มากวิเศษ หนึ่งในผู้ออกแบบ ระบุว่าโครงสร้างตัวนกที่เป็นไม้เนื้อแข็ง มีความสูง 22.6 เมตร มีการนำไม้ไผ่มาทำโครงด้านนอก และใช้กระดาษสีขาวมาพับคล้ายการทำเปเปอร์มาเช่ หรือประติมากรรมกระดาษ ซึ่งทั้งหมดจะถูกเผาพร้อมกับร่างหลวงพ่อในวันที่ทำพิธีฌาปนกิจ ประดิษฐานบนฐานแปดเหลี่ยม กว้าง 16 เมตร ประกอบด้วยนาคที่มีความยาว 5 เมตร 12 ตน และรายล้อมด้วยสัตว์หิมพานต์ 32 ตน นอกจากขนาดที่ใหญ่และความงดงามของเมรุลอย นกหัสดีลิงค์ที่ประกอบเมรุลอยนี้ ยังถูกสร้างให้มีกลไกในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ได้ ทั้งการหันศีรษะ ม้วนงวง กระพริบตา กระดิกหู และมีเสียงร้อง เพื่อประกอบพิธีการในวันพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
ขณะที่ประชาชนจากจังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียงทยอยเดินทางมาชมความงาม อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เช่นนายอภินันท์ พิมพ์ดี ชาวอำเภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น กล่าวว่า วันนี้ตนเองและครอบครัวตั้งใจเดินทางมาชมความสวยงามของเมรุลอยรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกโดยเฉพาะ เพราะเกรงว่าในวันจริงหรือหากมาในช่วงใกล้ๆ วันพระราชทานเพลิงจะมีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก อาจทำให้การจราจรติดขัดและเข้าถึงพื้นที่จัดงานพิธีได้ยาก ซึ่งทุกคนรวมทั้งตนเองได้มาเห็นกับตาก็ดีใจและภูมิใจที่มีโอกาสได้เห็น.-สำนักข่าวไทย