กรมธนารักษ์เปิดตัวรถบริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์

ปทุมธานี 14 ม.ค. – กรมธนารักษ์เปิดตัวรถให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ นำร่อง 14 จังหวัด กระตุ้นเหรียญกษาปณ์ที่อยู่ในมือประชาชนเกิดการหมุนเวียนเพิ่มขึ้น สามารถลดต้นทุนผลิตเพิ่มประมาณ 86 ล้านบาท


นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ หรือ Mobile Coin Unit เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาใช้บริการแลกคืนเหรียญกษาปณ์ได้มากขึ้น  โดยจัดสร้างรถบรรทุกขนาดใหญ่ 2 คัน จะออกให้บริการในจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่มีศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์รวม 14 จังหวัด ซึ่งครั้งแรกจะให้บริการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยาระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะขยายพื้นที่ให้บริการไปในจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง 12 จังหวัด 


อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้จ่ายเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคาประมาณปีละ 3,000 ล้านเหรียญ และมีเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคาอยู่ในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 32,000 ล้านเหรียญ มูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท ขณะที่มีการแลกคืนเพียงร้อยละ 30 ซึ่งช่วยลดต้นทุนกรมธนารักษ์ไม่ต้องผลิตใหม่ประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ โดยนำรถออกไปให้บริการในพื้นที่ต่าง ๆ จะช่วยให้ประชาชนนำเหรียญมาแลกคืนสะดวกขึ้นและสามารถลดต้นทุนการผลิตเพิ่มประมาณ 86 ล้านบาท

สำหรับ 12 จังหวัดที่จะให้บริการเพิ่ม ได้แก่ นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นครปฐมอ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก และสระบุรี โดยตั้งเป้าหมายการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคาเดือนละ 5 ล้านเหรียญ หรือปีละ 60 ล้านเหรียญ


นายอำนวย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์ยังเดินหน้าปรับค่าเช่าที่กรมธนารักษ์ จากเดิมปรับร้อยละ  1 ต่อปี จะเปลี่ยนฐานการปรับใหม่  โดยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 3-4 ต่อปีบนพื้นฐานของมูลค่าทรัพย์สิน (ROA) ปัจจุบันให้เช่าที่ประมาณ 400,000 ไร่ จากภาพรวมทั้งหมด 12 ล้านไร่ ส่วนใหญ่ใช้โดยส่วนราชการ สำหรับพื้นที่ให้เช่าส่วนใหญ่  400,000 ไร่ จำนวน 170,000 สัญญา การปรับราคาเน้นในส่วนของการเช่าเพื่อพาณิชย์ที่มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ส่วนอีกร้อยละ 80 เป็นการเช่าเพื่อการเกษตรและอยู่อาศัยยังไม่ปรับค่าเช่า การปรับค่าเช่าจะได้รายได้เพิ่มประมาณ 600 ล้านบาท ทำให้รายได้ส่วนนี้จากเดิมได้ปีละประมาณ 9,000 ล้านบาท เพิ่มเป็นประมาณ 10,000 ล้านบาท 

ส่วนการเดินหน้าโครงการลงทุนในที่ราชพัสดุ ก็จะมีการเดินหน้าพัฒนาด้วย ได้แก่ โครงการร้อยชักสาม ย่านเจริญกรุง ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะลงทุนมูลค่า 3,000 ล้านบาท ทำสัญญาแล้ว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเดือนหน้าเป็นอย่างช้า โครงการศูนย์ราชการโซน c แจ้งวัฒนะ ลงทุนเพิ่ม 30,000 ล้านบาท โครงการพัฒนาหมอชิตเก่า มูลค่า 26,000 ล้านบาท โดยบริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด โครงการพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ที่จะปรับปรุงใหม่ มูลค่า 6,000 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม