กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – “กฤษฎา” สั่งกรมฝนหลวงฯ เร่งทำฝนช่วยชาวกรุงเทพฯ ลดปริมาณฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ซึ่งกระทบสุขภาพประชาชน จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วขึ้นปฏิบัติการทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย
นายกฤษฏา บุญราช รัฐมตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในกรุงเทพฯ เกินมาตรฐานมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ว่า ได้สั่งการนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้เฝ้าติดตามสภาพอากาศเพื่อขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวง โดยให้ดำเนินการช่วยแก้ปัญหาฝุ่นละลองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อทำฝนหลวงในพื้นที่เสี่ยงในวันที่มีสภาพอากาศเอื้ออำนวย
“ได้สั่งการไปแล้ว ซึ่งอธิบดีกรมฝนหลวงฯ รายงานว่าเฝ้าติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเพียงพอให้เมฆก่อตัว จึงจะขึ้นปฏิบัติการในพื้นที่ปริมณฑล เพื่อให้ฝนตกในกรุงเทพฯ ลดฝุ่นละอองในอากาศลงได้” นายกฤษฎา กล่าว
ด้านอธิบดีกรมฝนหลวงฯ กล่าวว่า จากสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรายงานจากกรมควบคุมมลพิษเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) ว่า ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้น มีค่าเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว 1 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดระยองเตรียมความพร้อมปฏิบัติการในวันที่มีสภาพอากาศเอื้ออำนวยทำฝน เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทั้งนี้ จากการประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษ คาดว่าระหว่างวันที่ 15-18 มกราคมนี้มีแนวโน้มที่จะสามารถทำฝนหลวงได้ โดยใช้เครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำ ที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดในการปฏิบัติการ 3 ประเด็น คือ ไม่สามารถทำการบินเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในได้ด้วยเงื่อนไขกฎการบิน ซึ่งจะต้องทำการบินห่างจากสนามบินนานาชาติอย่างน้อยระยะ 50 ไมล์ พื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ ยังมีพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่ต้องการฝน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเกิดความเสียหายได้และเงื่อนไขทางสภาพอากาศไม่เอื้อต่อการปฏิบัติการ เนื่องจากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยกรมฝนหลวงฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและเร่งดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหา ทันทีเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย.-สำนักข่าวไทย
