ยอดใช้สิทธิ์ FTA- GSP 11 เดือนโตเกือบร้อยละ 16

นนทบุรี 14 ม.ค. – อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเผยยอดใช้สิทธิ์ FTA และ GSP ช่วง 11 เดือนปี 61 กว่า 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ  15.71 มั่นใจทั้งปีโตร้อยละ 9 หรือคิดเป็น 70,794 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 


นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) โดยในช่วง 11 เดือนปี 2561 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์รวมอยู่ที่ 68,779.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ  15.71 โดยมีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์อยู่ที่ร้อยละ  75.09 ของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA  มูลค่า 64,344.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ  15.29 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ  75.89 ของมูลค่าส่งออกที่ได้สิทธิภายใต้ FTA และมูลค่าการส่งออกภายใต้ GSP มูลค่า 4,435.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ  22.18 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ  65.05 ของมูลค่าที่ได้รับสิทธิ GSP 


ทั้งนี้ การใช้สิทธิ FTA พบว่าตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 24,765.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  จีน มูลค่า 16,217.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ออสเตรเลีย มูลค่า 8,571.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ญี่ปุ่น มูลค่า 7,028.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอินเดีย มูลค่า 4,099.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ พบว่าตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด คือ เปรู ซึ่งมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 44.64 รองลงมาจีนและอินเดีย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 26.61 และ 22.98 ตามลำดับ ซึ่งทั้ง 3 ตลาดดังกล่าวนอกจากจะมีอัตราการขยายตัวสูงแล้วยังพบว่ามีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์สูงเช่นเดียวกัน 

สำหรับปี 2562 มีความตกลง FTA ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ๆ นี้ คือ ความตกลง FTA อาเซียน-จีน (ACFTA) ที่เพิ่งจะบรรลุผลสำเร็จในการเจรจาทบทวนกฎถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้า (PSRs) ส่งผลให้กฎที่ใช้ในการพิจารณาออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E ของสินค้ากว่า 900 รายการเปลี่ยนแปลงไป เช่น สินค้ากลุ่มอาหารสำเร็จรูป กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มเครื่องสำอาง เป็นต้น โดยสินค้าส่วนใหญ่จะมีกฎที่ยืดหยุ่น คือ ผู้ประกอบการจะมีเกณฑ์เลือกใช้ประกอบการพิจารณายื่นขอ Form E กับกรมการค้าต่างประเทศเพื่อใช้สิทธิพิเศษทางภาษีในการส่งออกสินค้าไปตลาดจีนและประเทศอาเซียนอื่นมากขึ้น จากเดิมเคยใช้เกณฑ์มูลค่าการผลิตในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 40 (RVC >40%) ได้เพียงเกณฑ์เดียวได้เพิ่มทางเลือกใช้เกณฑ์การเปลี่ยนพิกัดอัตราศุลกากร (CTC) ที่ไม่ได้จำกัดสัดส่วนมูลค่าของวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศนอกภาคีในการผลิตสินค้าขั้นสุดท้าย เพียงแต่กำหนดให้วัตถุดิบนำเข้าต้องผ่านการแปรรูปอย่างเพียงพอ และสินค้าที่ส่งออกมีการเปลี่ยนแปลงพิกัดฯ ในระดับที่กำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่ากฎดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2562  

นอกจากนี้ ยังมีความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) ถือเป็น FTA ใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ปีนี้ โดยกรมฯ ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และเตรียมความพร้อมให้บริการ ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้ารองรับความตกลงการค้าเสรีดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้ในไตรมาสแรกของปี 2562 และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในช่วงก่อนความตกลงฯ มีผลใช้บังคับ รวมทั้งกรมฯ เตรียมจัดอบรม/สัมมนาให้ความรู้ด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า และระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินการยื่นขอหนังสือรับรองฯ เพื่อใช้สิทธิฯ AHKFTA ได้ถูกต้องด้วย 


สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP ปัจจุบันมี 5 ประเทศที่ให้สิทธิ์กับไทย คือ สหรัฐ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช นอร์เวย์ และญี่ปุ่น โดยในช่วง 11 เดือน การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สหรัฐยังคงมีสัดส่วนการใช้สิทธิ์มากที่สุด คือ ประมาณร้อยละ  89 ของมูลค่าการใช้สิทธิ์ GSP ทั้งหมด มีมูลค่า 3,967.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ  14.24 มีอัตราการใช้สิทธิ์ร้อยละ  68.72 ของมูลค่าการส่งออกที่ได้รับสิทธิ์ GSP ซึ่งมีมูลค่า 5,773.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มอื่น ๆ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และเลนส์แว่นตา 

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงเป้าหมายอัตราการขยายตัวมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ที่กรมฯ ประมาณการไว้ที่ ร้อยละ 9 คิดเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ประมาณ 70,794 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ  97.2 ของเป้าหมายมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ดังนั้น กรมฯ จึงมั่นใจว่ามูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ จะขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดทั้งปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกของไทยที่มีการกระจายตัวในตลาดใหม่ ๆ รวมทั้งการปรับปรุงระบบการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.26 น. เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว รายละเอียดจากแถลงอย่างเป็นทางการและยังระบุข้อความว่า “นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง” นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความให้การให้สัมภาษณ์ของนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข

รัฐสภา 3 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน มีมติโหวตหนุนนั่งนายกฯ ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข หัวเราะ “เพื่อไทย” บอกเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย พาประเทศไม่รอด เป็นเหตุยื่นยุบสภา ชี้ให้ไปดูคำแถลงพรรคส้ม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าสภาเมื่อเวลา 09.45 น. โดยผู้สื่อข่าว พยายามถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนได้แถลงข่าวสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ฝั่งพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา แต่นายอนุทิน ไม่ได้ตอบคำถาม บอกแค่ว่าขอไปประชุมก่อน ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ดีใจหรือไม่ที่พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ตอบว่า “ก็ดีใจสิ และรู้สึกขอบคุณมากๆ ด้วย” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขึ้นไปประชุมกับพรรคภูมิใจไทยก่อน เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอ้างเหตุผลการยุบสภาว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะนำพาประเทศไปไม่รอด นายอนุทินหัวเราะ ก่อนตอบว่า ดูร่างที่พรรคประชาชนได้แถลงมันมีคำตอบอยู่ในนั้น เมื่อถามว่าพร้อมเซ็นตามข้อตกลงของพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พร้อมสิครับ ยอมรับได้ทุกข้อ”.-สำนักข่าวไทย

มติพรรคประชาชน โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

รัฐสภา 3 ก.ย.-มติพรรคประชาชน แถลงยกมือโหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไข นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงว่า ในช่วงระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนและจากกระแสข่าวเมื่อวานในเรื่องของการยุบสภา ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการหรือมีการรับรองอย่างเป็นทางการจากฝั่งพรรคเพื่อไทยว่ามีการทูลเกล้าฯ เสนอยุบสภาแล้วหรือไม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน วันนี้มาพร้อมผู้บริหารพรรคบางส่วนที่ได้มีการประชุมกันเมื่อเช้านี้ถึงข้อสรุปว่าภาคประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน นับตั้งแต่กรณีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุนเซ็น พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่าทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศคือการคืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินใจ กำหนดอนาคตของประเทศผ่านการยุบสภา เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ให้เรามีรัฐบาลใหม่เพื่อให้มีความชอบธรรมมีเสถียรภาพและมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประชาชนทางด้านการเมืองเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคง แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลผู้มีอำนาจในการยุบสภา กลับยังไม่ให้ความชัดเจนและยังไม่ตอบสนองและมีความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด โดยไม่สำนึกถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นผลจากตำแหน่ง พรรคประชาชนจึงเห็นว่าหากพรรคงดออกเสียงในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเกิดสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไหลกลับไปรวมตัวกันของพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมที่ได้บริหารประเทศอย่างล้มเหลวมาตลอดสองปีที่ผ่านมา รวมทั้งทางเสี่ยงเปิดทางให้หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หรือไม่ก็เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกซึ่งขัดต่อหลักที่พรรคประชาชนยึดถือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตลอด 5 วันที่ผ่านมานี้ หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างละเอียดถึงความเข้าใจของสองพรรคต่อเงื่อนไขของพรรคประชาชนและกลไกควบคุมให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องรักษาตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับการรับฟังเสียงของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และผู้แทนราษฎรของพรรคอย่างรอบคอบแล้ว วันนี้คณะกรรมการบริหารของพรรคจึงได้ประชุมและมีมติว่าหากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภาคประชาชนจะให้ความเห็นชอบแก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไขดังต่อไปนี้ ข้อที่หนึ่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อสภา เพื่อให้มีการจัดเลือกตั้งเป็นการทั่วไป […]

น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว

2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือนที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม […]