กรุงเทพฯ 12 ม.ค.-ไร้ญาติยื่นประกันหนุ่มใหญ่ ผู้ต้องหาพาเด็กหญิงอายุ 14 ปี หนีออกจากบ้านไปเชียงใหม่ ขณะที่ผลตรวจร่างกายเด็ก เจ้าหน้าที่ พม. ได้แจ้งให้ตำรวจทราบแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ เพราะอาจกระทบต่อรูปคดี
พนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ควบคุมตัวนายรณชิต อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือ ผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร มายื่นคำร้องฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 8 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน คัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีเพราะคดีมีอัตราโทษสูง โดยคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561 เวลา 13.05 น. ผู้ปกครองเด็กหญิงอายุ 14 ปี ได้แจ้งความว่า บุตรสาวได้หายจากโรงเรียนหลังจากสอบกลางภาคไม่กลับบ้าน และติดต่อไม่ได้ พนักงานสอบสวนรับแจ้งความพร้อมประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสืบสวนจนพบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเงินของเด็กหญิง ซึ่งผู้ต้องหาเป็นผู้จดทะเบียนหมายเลขนั้นไว้ และพบเคลื่อนไหวบัญชีธนาคาร มีการเบิกถอนเงินไปเมื่อ 9 มกราคมที่ผ่านมา ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารในเชียงใหม่ จึงตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบภาพผู้ต้องหาและเด็กหญิงเดินอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าที่เชียงใหม่ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอออกหมายจับ ขณะที่การสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2561 ได้พาเด็กหญิงอายุ 14 ปี ไปสอนพิเศษ ที่ห้างขายสินค้าค้าปลีกแห่งหนึ่งภายในกรุงเทพฯ จากนั้นมีความสัมพันธ์กัน ก่อนพาเด็กหญิงไปส่งบ้านพัก พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ฐานพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแล หรือ เพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตนโดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน ซึ่งพิเคราะห์แล้วกรณีตามคำร้องเป็นความผิดอาญาร้ายแรง จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ทั้งนี้เมื่อหมดเวลาทำการพิจารณาฝากขัง ผู้ต้องหาก็ไม่ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ เพื่อขอประกันตัวชั้นฝากขังนี้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวไปคุมขังต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขัง
ด้านอธิบดีกรมกิจการเด็ก และเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุขณะนี้ เด็กหญิงวัย 14 ปี ที่ยังมีภาวะเครียดเล็กน้อยจากการรับทราบข่าวผ่านสื่อที่ออกมากมาย แต่ พม.ได้ให้การดูแลเด็กอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจและได้ติดต่อผู้ปกครองแล้ว ส่วนเรื่องคดีความ จะมีการประชุมร่วมกับตำรวจ ในเร็วๆนี้ และได้แจ้งผลตรวจร่างกายเด็กให้ตำรวจแล้ว เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีความ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอาจจะกระทบต่อรูปคดี.-สำนักข่าวไทย