สภาการหนังสือพิมพ์ฯ เตือนสื่อระมัดระวังการเสนอข่าวกรณีเด็กหญิงอายุ 14 ปี

กรุงเทพฯ 12 ม.ค.- สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกจดหมายเปิดผนึก เตือนสื่อมวลชนระมัดระวังการนำเสนอข่าวเด็กหญิงอายุ 14 ปี ถูกพาหนีออกจากบ้าน ซึ่งสถานการณ์เปลี่ยนจากข่าวคนหายเป็นคดีอาชญากรรม โดยขอให้ยุติการเปิดเผยแพร่ภาพข่าว รูปพรรณสัณฐาน แหล่งที่อยู่ สถานศึกษา รวมถึงแก้ไขข้อมูลที่ทำให้ทราบถึงอัตลักษณ์ของเด็ก ซึ่งยังสามารถสืบค้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์


สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกจดหมายเปิดผนึกต่อสื่อมวลชน เรื่อง การใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข่าวเยาวชนที่ถูกพรากไปโดยไม่มีเหตุอันควร ความว่า

ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนงทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และเว็บไซต์ข่าว ได้นำเสนอข่าวบิดาของนักเรียนวัย 14 ปี แจ้งความต่อกองบังคับการกองปราบปราม กรณีเรื่องบุตรสาวหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามพบตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับชายวัยกลางคนที่อ้างว่าเป็นบิดาของเพื่อนนักเรียนนั้น และถูกแจ้งข้อกล่าวหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร ซึ่งบัดนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปจากการนำเสนอข่าวคนหายไปจนเป็นข่าวคดีอาชญากรรมแล้วนั้น


สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงขอเตือนมายังองค์กรสมาชิก และสื่อมวลชนอื่นๆ ให้ใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข่าว โดยยุติการเปิดเผยแพร่ภาพข่าว รูปพรรณสัณฐาน แหล่งที่อยู่และสถานศึกษาของเยาวชนที่ตกเป็นข่าว และแก้ไขข้อมูลการเผยแพร่ภาพและเนื้อหาข่าวที่ยังคงสามารถสืบค้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่ทำให้สามารถทราบถึงอัตลักษณ์ของผู้ตกเป็นข่าว ซึ่งถือว่าเป็นผู้เสียหายจากการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายในคดีอาญาที่ได้รับการคุ้มครองห้ามมิให้ผู้ใดหรือสื่อมวลชนโฆษณาหรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครองที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพราะการเปิดเผยข้อมูลของเด็กหรือผู้ปกครองผ่านสื่อมวลชน จะทำให้โอกาสกลับคืนสู่สังคมของเด็กได้รับการกระทบกระเทือน แม้จะมีความพยายามปิดบังอำพรางใบหน้า แต่การนำเสนอข้อมูลข่าวโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่จะทำให้ข้อมูลเด็กและครอบครัวถูกเปิดเผยอันจะส่งผลเสียหายต่อไปอีกยาวนาน โดยเฉพาะการสืบค้นข้อมูลย้อนหลังผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงขอความร่วมมือมายังองค์กรสมาชิก และสื่อมวลชนอื่นให้ใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข่าวดังกล่าว โดยยุติการเผยแพร่ภาพข่าว รูปพรรณสัณฐาน แหล่งที่อยู่และสถานศึกษาของเด็กและครอบครัวที่ตกเป็นข่าว รวมถึงยุติการขุดคุ้ยเรื่องราวที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจเด็ก และผู้เกี่ยวข้องในระยะยาว นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือใช้วิจารณญาณในการแก้ไขข้อมูลการเผยแพร่ภาพและเนื้อหาข่าวที่ยังคงสามารถสืบค้นย้อนหลังในระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และเพื่อให้เด็กและครอบครัวที่ตกเป็นข่าวได้กลับคืนสู่สังคมอย่างปกติสุขโดยเร็ว


สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ    

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

11 มกราคม 2562

.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน

นายกฯ ขีดเส้น 30 วัน ออกมาตรการคุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ

นายกฯ สั่ง พาณิชย์-ดิจิทัลฯ เข้ม 3 มาตรการ คุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศให้มีคุณภาพ ขีดเส้นให้เสร็จภายใน 30 วัน

“มาริษ” ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ร่อนหนังสือ​ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4 เจ็บ 1 ให้ยุติส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมยับยั้งชั่งใจ ป้องกันความขัดแย้งขยายตัว ขอคนไทยชะลอการเดินทางไปอิสราเอล-ตะวันออกกลาง