กรุงเทพฯ 21 เม.ย. – “องอาจ” ลงพื้นที่จอมทอง ช่วยตระกูล “ม่วงศิริ” หาเสียง ยัน จม.เปิดผนึก “ลุงป้อม” พาดพิง ปชป. เป็นความเข้าใจผิด ไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วมฯ พร้อมหนุนแนวทางปรองดอง ก้าวข้ามความขัดแย้ง และไม่ขัดรัฐใช้งบฯ ช่วยค่าไฟ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ลงพื้นที่ “รถโชว์โพลิซี (Policy Road Show)” ช่วยนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางขุนเทียน-จอมทอง หมายเลข 12 และนายสากล ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางขุนเทียน-บางบอน หมายเลข 6
นายองอาจ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกจดหมายเปิดผนึกพาดพิงว่า พรรคประชาธิปัตย์ เล่นละครกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค โดยไปบอกให้นายอภิสิทธิ์ลาออก เพื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะได้เข้าร่วมรัฐบาล โดยยืนยันว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะนายอภิสิทธิ์ ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรค ตั้งแต่รู้ผลการเลือกตั้งแบบไม่เป็นทางการ แล้วผ่านมาอีก 2 เดือน จึงจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และมีการประชุมตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลหลังจากนั้น และนายอภิสิทธิ์ได้ประกาศว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จึงลาออกจาก ส.ส. ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการทางการเมืองแบบตรงไปตรงมา โดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของพรรคอย่างเดียว แต่คำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การออกจดหมายดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ในการทำงานในพรรครัฐบาล และความเป็นพันธมิตรระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ และเห็นว่าคงเป็นความเข้าใจผิด จึงต้องชี้แจงให้เข้าใจ
ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ออกจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 10 ให้ทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้งนั้น นายองอาจ กล่าวว่า คงไม่มีพรรคการเมืองไหนต้องการสร้างความขัดแย้งอยู่แล้ว และเชื่อว่าคนไทยทุกคนคงไม่อยากกลับไปสู่วังวนความขัดแย้ง จึงเห็นว่าเป็นเรื่องดี หากทุกพรรคเดินไปข้างหน้าตามระบอบประชาธิปไตย แข่งขันกันตามปกติ โดยการนำเสนอนโยบายที่ดีต่อประชาชน นำเสนอผู้สมัครที่มีคุณภาพต่อประชาชน แล้วสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ
นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขอคณะกรรมการการเลือกตั้งใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟแพงว่า หากแนวทางนี้สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ ก็เห็นด้วย เพราะต้องยอมรับว่า ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาค่าไฟราคาแพงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น หากมีอะไรจะสามารถมาเยียวยาให้กับประชาชนได้ ก็คิดว่าเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงต้นทุนให้มาก หรือพี่น้องประชาชนที่ทำธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME และกลุ่ม Start Up ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว หลังจากเจอภัยโควิด-19. – สำนักข่าวไทย