ทำเนียบรัฐบาล 9 มี.ค. -นายกฯ อ่านจดหมายเปิดผนึก “พล.อ.ประวิตร” แล้ว ลั่น “ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม” ขอสื่ออย่าเอาทุกเรื่องมาขยาย สร้างสับสน ให้ทุกคนเดินตามกติกาประชาธิปไตย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุถึงบรรยากาศการหาเสียงของแต่ละพรรคการเมืองในช่วงนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรีว่า ทุกคนหาเสียงในสิ่งที่คิดว่าพรรคตนเองจะทำในอนาคตข้างหน้าได้ ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องเพราะต่างคนต่างต้องหาเสียง แต่ในฐานะเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ย้ำกับสมาชิกพรรคไปแล้วว่าการหาเสียงทุกอย่างต้องระมัดระวังอย่างที่สุด อย่าทำให้เกิดภาระของประเทศในวันข้างหน้า เราแก้มาตั้งนานแล้ว หลายเรื่องดีขึ้น หากกลับไปที่เก่าทั้งหมดมันจะมีปัญหา
ส่วนจดหมายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อ่านแล้ว ไม่มีอะไร ใครจะเขียนก็เขียนได้ทั้งนั้น คิดเอาเองแล้วกัน
เมื่อถามย้ำว่า มีบางประโยคย้อนไปถึงเรื่องอำนาจนิยม เรื่องที่คาบเกี่ยวกับการรัฐประหาร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องตั้งแต่ปีไหนมาแล้ว ตนมายืนอยู่ตรงนี้ มายืนด้วยอะไร รัฐธรรมนูญไม่ใช่หรือ ด้วยระบบสภาและในช่วงก่อนต้องดูว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศ และลองดูว่าหากไม่มีอะไรที่ทำให้ความขัดแย้งมันลดลง จะเกิดอะไรขึ้น จนถึงวันนี้ จะยืนอยู่แบบนี้ได้หรือเปล่า ขณะนี้ไม่มีบรรยากาศความขัดแย้ง ทุกอย่างจะพัฒนา ประเทศนี้ต้องสงบเรียบร้อย มีความสุข ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น อย่ากลับไปที่เดิมอีกเลย พรุ่งนี้ก็แล้วแต่พลเอกประวิตรที่เอามาเขียนถึงเรื่องรัฐประหาร 2-3 ครั้ง
ส่วนที่พล.อ.ประวิตรมองว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาล อาจมีโอกาสเกิดการรัฐประหารขึ้นอีก นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า ใครจะทำ พูดไปตั้งนานแล้วว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย มันไม่ควรจะมีอีกแล้ว ซึ่งอยู่ที่พวกเราจะช่วยกันได้อย่างไร หากขัดขัดแย้งกันรุนแรง ก็ไม่ทราบจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะไม่เกี่ยวข้องแล้ว
“ตอนนี้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว ทุกคนพยายามอยู่ในกฎกติกา ผมยืนยันว่ากระแสข่าวว่ารัฐประหารที่ออกมา เป็นการดิสเครดิตผม ในฐานะที่ผมลงเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว ซึ่งได้อธิบายและชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่าพล.อ.ประวิตรมีท่าทีเปลี่ยนไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ยังคงเป็นพี่ผมเหมือนเดิม ไม่มีอะไร” และว่า การที่พล.อ.ประวิตรออกมาสื่อสารแบบนั้น มีคนช่วยพล.อ.ประวิตรเยอะอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าพล.อ.ประวิตรเป็นผู้เขียนจดหมายเองหรือไม่
ส่วนมองว่านายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้แข่งกับใคร ขอให้มองในมุมมองภาพใหญ่ที่รัฐบาลทำตอนนี้ ทุกคนเก่งหมด หลายคนอาจจะมองว่านายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ แต่อยู่มาหลายปีแล้ว มีการศึกษาและมีคนเก่ง ๆ อยู่ด้วย ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่ทราบว่า พรรคการเมืองใดเป็นคู่แข่งตัวจริงของพรรค คงทุกพรรค เพราะทุกพรรคแข่งกันหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสื่อมวลชนว่า อย่าสร้างความสับสนอลหม่านมากใครพูดอะไรมาก็เอามาขยายหมดก็จะมีแต่เรื่อง ตนจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ จบไปแล้วก็คือจบไปแล้ว ของเก่าก็คือของเก่า วันนี้ขอให้เดินหน้าประเทศ ท่ามลางความสงบสุขเรียบร้อยของประเทศชาติไม่ดีกว่าหรือ ที่ผ่านมาคิดแบบนี้มาโดยตลอด ตอนนี้ไม่มีความขัดแย้ง ไม่เห็นว่ามีใครมีความขัดแย้ง แต่ยอมรับว่ามีความเห็นต่าง ซึ่งสามารถยอมรับได้
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมองอย่างไรที่พยายามสู้ระบอบประชาธิปไตย และอยู่บนกติกา แต่มีคนพยายามลากนายกรัฐมนตรีออกนอกกติกา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเรื่องอะไรจะให้เค้าลากออกไป ตนก็อยู่ในกติกาของตน กติกาของประชาธิปไตย วันนี้ต่างประเทศประเมินว่าประเทศไทยอันดับเพิ่มขึ้นในเรื่องของประชาธิปไตย โลกเขาลงคะแนนกันมาแล้ว คะแนนเราสูงขึ้นแล้ว ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน ส่วนที่มีกระแสว่ารัฐบาลทิ้งทวนอนุมัติงบประมาณหลายโครงการเชื่อมโยงกับประเด็นการเมือง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายโครงการเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว และหลายโครงการเป็นโครงการที่เสนอมาจากพรรคร่วมรัฐบาลก็นำมาพิจารณา แต่ตอนนี้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ต้องจัดหางบประมาณให้เพียงพอ และงบประมาณที่อนุมัติก็เป็นงบประมาณของปี 2567 ต้องเสนอแผนการใช้จ่ายเข้าสภาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่อนุมัติไปแล้วนั้นเป็นเพียงหลักการ เห็นชอบ ยืนยันไม่ได้ทำให้ใครทำให้ประชาชนด้วยกันทั้งนี้ต้องดูปริมาณงานและพิจารณาให้.-สำนักข่าวไทย