ตำรวจภาค 3 มอบเงินช่วยพยาบาลเหยื่อเมาแล้วขับชนรถ รพ.

บุรีรัมย์ 11 ม.ค.- ตำรวจภูธรภาค 3 มอบเงินช่วยครอบครัวพยาบาลสาวเหยื่อเมาแล้วขับชนรถรีเฟอร์ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจถูกสั่งย้ายไป ศปก.ตร.จังหวัดบุรีรัมย์จนกว่าจะสิ้นสุดคดี หากผิดจริงมีโทษไล่ออกปลดออก


ความคืบหน้ากรณีรถกระบะสีบรอนซ์เงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมี ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับเสียหลักข้ามเลนพุ่งชนประสานงากับรถพยาบาลส่งต่อผู้ป่วย (รีเฟอร์) ของ รพ.ประโคนชัย บนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ช่วงบ้านไทร-ไพบูลย์ ส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.ส่งเสริมสุขภาพชุมชนเขาคอก ที่นั่งมาในรถเสียชีวิต และน.ส.จรวยพร ปาประโคน อายุ 40 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.ประโคนชัย บาดเจ็บสาหัส รวมทั้งคนขับรถรีเฟอร์ หญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นผู้ป่วยส่งต่อ และญาติบาดเจ็บอีก 5 คน ซึ่งเหตุเกิดเวลาผ่านมานานกว่า 2 เดือน


ล่าสุด (11 ม.ค.) พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 3 มอบหมายให้ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภาค 3 และ พล.ต.ต.วีระพล เจริญศิริ  ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์  เป็นตัวแทนเยี่ยม น.ส.จรวยพร และมอบเงินช่วยเหลือ 

พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้กำชับเร่งคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนคดีส่งอัยการจังหวัดตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.2561  ที่ผ่านมา ทางอัยการได้พิจารณายื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ในข้อหา“ขับรถยนต์โดยประมาทขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต” เมื่อวันที่ 30 ต.ค. และศาลได้นัดสืบพยานครั้งแรกในวันที่ 21 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ที่ผ่านมาทางตร.ทำงานอย่างเต็มที่และได้ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง เบื้องต้นมีความเห็นว่ามีความผิดทางวินัยร้ายแรง และหากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าผิดจริงจะมีโทษไล่ออกและปลดออก

สำหรับง ร.ต.อ.เดชา ผู้ก่อเหตุได้ถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์จนกว่าจะสิ้นสุดคดี ส่วนที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าตำรวจอาจจะมีการช่วยเหลือกันนั้น ก็ชี้แจงว่าทางตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทั้งเร่งรัดดำเนินการอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง