อดีตกมธ.ร่างรธน.เปรียบเปรมโมเดล มีลักษณะคล้ายการเมืองช่วงนี้

S__27697288กรุงเทพฯ  4 ก.ย.-สุจิต เปรียบเปรมโมเดล มีลักษณะคล้ายการเมืองช่วงนี้ ชี้มีความเป็นไปได้ที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่รู้ใจพลเอกประยุทธ์ว่าจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่


นายสุจิต บุญบงการ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงข้อเสนอ”เปรมโมเดล” ว่ามองได้ว่าน่าจะเป็นการเทียบเคียงการเมืองในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2523-2531 เพราะขณะนั้นการรณรงค์ให้นายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส.นั้นยังเบาบางและพรรคการเมืองยังไม่เข้มแข็งมากนัก อีกทั้งพรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็รู้ศักยภาพตัวเองดีว่าคงไม่มีใครขึ้นเป็นผู้นำได้ จึงให้การสนับสนุน รวมถึงประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าอยากได้ผู้นำที่มีความสามารถและมีความซื่อสัตย์ในการบริหารบ้านเมืองได้  ดังนั้นพลเอกเปรมจึงได้รับการผลักดันจนสามารถเป็นผู้บัญชาการทหารบกและนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้อย่างไม่มีปัญหา และแม้จะมีกลุ่มที่คัดค้านบ้างแต่ในที่สุดแล้วก็ให้การยอมรับทุกฝ่ายทั้งฝ่ายทหารอย่างกลุ่ม จปร.รุ่น5 กลุ่มพรรคการเมืองอย่างพรรคชาติไทยและและส.ว.บางส่วน

“ความรู้สึกตอนนั้นคิดตรงกันว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการคนที่มาคุมสถานการณ์ได้และเป็นแบบอย่างในการเป็นผู้นำที่ถูกต้องที่จะมาดูแลชาติบ้านเมืองและก็ต้องเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์เพราะประชาชนเบื่อหน่ายการทุจริตในสมัยจอมพลถนอมและจอมพลประภาสเป็นผู้นำอยู่ตอนนั้น”นายสุจิต กล่าว


เมื่อถามว่า หากจะเปรียบเทียบกับในสมัยนี้จะนำเปรมโมเดล มาใช้ได้หรือไม่  นายสุจิต กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากให้ใช้คำว่าเปรมโมเดล เพราะจะเป็นการไปเปรียบเทียบว่าทำไมพลเอกเปรมทำได้และพลเอกประยุทธ์จะทำไม่ได้ เพราะพลเอกเปรมพ้นจากแวดวงการเมืองไปแล้วจึงไม่อยากเปรียบเทียบ

“หากถามว่าช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ที่จะมีนายกรัฐมนตรีคนนอก ไม่ว่าจะเป็น คนคสช.หรืออดีตผบ.ทบ.ได้ไหม  ต้องยอมรับว่าความรู้สึกนี้มีมากเพราะประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนมากกลัวว่ารัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งมาแล้วจะเป็นแบบเก่ามีการทุจริคตคอรัปชั่นและไม่เป็นไปตามความต้องการในหลายเรื่อง จึงไม่ค่อยแน่ใจว่าการให้นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองจะเหมาะหรือไม่ ดังนั้นหลายคนที่เชียร์พลเอกประยุทธ์ ก็เห็นว่าที่ผ่านมาท่านก็ทำงานดีเสียสละ และออกตัวว่าต้องการปูพื้นฐานประชาธิปไตยให้ประเทศแต่ไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจหรือต้องการตำแหน่งอะไรต่อ ซึ่งก็เหมือนกับพลเอกเปรมตอนที่เป็นแม่ทัพภาคและย้ายมาเป็นผู้นำในกองทัพบกก็ไม่ได้แสดงอาการว่าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นตรงนี้ก็อาจจะคล้ายกันแต่มีข้อแตกต่างคือ การเมืองเปลี่ยนแปลงไปเยอะจาก30 ปีที่แล้วที่พลเอกเปรมมีอำนาจ เนื่องจากพรรคการเมืองค่อนข้างมีความเชื่อมั่นว่าพรรคเขาจะต้องเป็นรัฐบาลและคนที่มีเสียงข้างมากควรจะได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเสียงของ ส.ส.ก็จะบอกว่าต้องเอาคนในก่อนหากไม่ได้ค่อยเอาคนนอก  แต่การต่อต้าน จะดูได้จากการเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองนั้นๆเลือกคนที่มีความสามารถและเข้าตาประชาชนหรือไม่ซึ่งแตกต่างจากสมัยพลเอกเปรมซึ่งไม่มีคู่แข่งในขณะนั้น แต่การเลือกตั้งครั้งนี้คนก็จะพิจารณาได้ถึงความเหมาะสม”นายสุจิต กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีการวางหลักการเทียบเคียงอย่างไรหากมีนายกรัฐมนตรีคนนอกให้ปฎิบัติตามเปรมโมเดล นายสุจิต กล่าวว่าพูดลำบากแต่ในทางปฎิบัติคนไทยที่มีสิทธิมีเสียงในการลงคะแนนและนักวิชาการรวมทั้งสื่อ ก็พอจะรู้หากเทียบเคียงกับบุคคลในบัญชีรายชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่แต่ละพรรคการเมืองเสนอมากับฝ่ายที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ที่คิดว่าเป็นต่อ  ซึ่งโอกาสที่ฝ่ายการเมืองจะส่งคนที่หน่วยก้านดีคงลำบาก ดังนั้นโอกาสที่พรรคการเมืองจำเป็นต้องสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีก็อาจจะมีมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่ว่าแต่ละพรรคการเมืองจะสามารถไปเอาชื่อใครที่เหมาะสมมาเป็นนายกรัฐบมนตรีเสนอต่อประชาชนเพราะหลายคนที่มีความรู้ความสามารถแบบไทยๆคงไม่อยากออกตัวให้ชื่อปรากฎ เชื่อว่าสุดท้ายก็ต้องเป็นคนในพรรคนั้นๆอยู่ดี ดังนั้นจึงมีโอกาสที่พรรคการเมืองจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องดูก่อนว่าพรรคการเมืองจะเอาชื่อคนที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีมาเสนอต่อประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน


เมื่อถามถึงความยากง่ายในการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีคนนอกในสมัยนี้กับสมัยพลเอกเปรม นายสุจิต กล่าวว่าคงมีความคล้ายกันในความลำบากเรื่องดูแลพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นการปรับครม.หรือการยุบสภา แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องมีคนช่วย ไม่ว่าจะเป็นนายทหารก็ดี นักการเมืองหรือนักธุรกิจก็ดี เพื่อเป็นคนที่จะมาต่อรองกับพรรคการเมือง แต่อยากฝากไว้ว่าอย่ายอมให้รัฐมนตรีแสวงหาผลประโยชน์อย่างที่เคยทำมา ถึงแม้ว่าเราจำเป็นจะต้องเอาบุคคลเหล่านั้นมาเป็นรัฐมนตรีเพื่อให้ได้เสียงในสภาแต่ไม่ใช่ว่าจะต้องยอมให้รัฐมนตรีเหล่านี้มาหาประโยชน์ดึงเสียงสส.สว.ในสภา ไม่อย่างนั้นก็จะเข้ารูปแบบเดิมอย่างที่เคยเป็นมา ทำอย่างไรจะให้มีหลักการใหม่หากทำได้บ้านเมืองก็จะเดินไปได้ด้วยดี

สำหรับวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น นายสุจิตเชื่อว่ามาถึงจุดหนึ่งนายกรัฐมนตรีคนนอกจะออกจากตำแหน่งเพื่อให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งได้บริหารประเทศ เพราะถือว่าได้เข้ามาวางรากฐานประเทศแล้วซึ่งพลเอกเปรมก็ทำแบบนั้นหลังจากปกครองประเทศมา 8 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้แสดงศักยภาพและความสามารถต่อไป

เมื่อถามถึงการยอมรับนายกรัฐมนตรีคนนอกจากนานาประเทศ นายสุจิต กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าต่างชาติไม่ติดใจอะไร เพียงแต่ต้องการให้มีการเลือกตั้งและต้องการให้ประชาชนได้แสดงออกและแสดงความคิดเห็นตามกระบวนการประชาธิปไตยโดยเชื่อว่าหลังจากการทำประชามติแล้วมีการเลือกตั้งสถานการณ์ประชาธิปไตยในประเทศจะดีขึ้นตามลำดับ

เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันมีโอกาสที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่  นายสุจิต กล่าวว่าเป็นไปได้มาก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคนที่พรรคการเมืองเสนอชื่อมานั้นเป็นใคร คนนอกคือใครตรงนี้คือเงื่อนไขที่สำคัญ ทั้งนี้โดยมารยาทพูดลำบากที่จะระบุชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีคนนอกเป็นใคร และคนๆนั้นจะรับตำแหน่งหรือไม่ด้วย ดังนั้นการคาดคะเนไปก่อนหมือนเป็นการไปชี้ทางว่าคนนี้เหมาะสมและแรงต่อต้านจะโหมกระหน่ำจากฝ่ายค้านและคนๆนั้นอาจจะไม่รับก็ได้  ส่วนพลเอกประยุทธ์จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่ตรงนี้ตนไม่ทราบเพราะตนไม่รู้ใจนายกรัฐมนตรีตนตอบแทนไม่ได้แต่เชื่อว่าถึงเวลานายกรัฐมนตรีคงให้คำตอบเอง.-สำนักข่าวไทย

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 10% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง