อดีตกมธ.ร่างรธน.เปรียบเปรมโมเดล มีลักษณะคล้ายการเมืองช่วงนี้

S__27697288กรุงเทพฯ  4 ก.ย.-สุจิต เปรียบเปรมโมเดล มีลักษณะคล้ายการเมืองช่วงนี้ ชี้มีความเป็นไปได้ที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่รู้ใจพลเอกประยุทธ์ว่าจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่


นายสุจิต บุญบงการ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงข้อเสนอ”เปรมโมเดล” ว่ามองได้ว่าน่าจะเป็นการเทียบเคียงการเมืองในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2523-2531 เพราะขณะนั้นการรณรงค์ให้นายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส.นั้นยังเบาบางและพรรคการเมืองยังไม่เข้มแข็งมากนัก อีกทั้งพรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็รู้ศักยภาพตัวเองดีว่าคงไม่มีใครขึ้นเป็นผู้นำได้ จึงให้การสนับสนุน รวมถึงประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าอยากได้ผู้นำที่มีความสามารถและมีความซื่อสัตย์ในการบริหารบ้านเมืองได้  ดังนั้นพลเอกเปรมจึงได้รับการผลักดันจนสามารถเป็นผู้บัญชาการทหารบกและนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้อย่างไม่มีปัญหา และแม้จะมีกลุ่มที่คัดค้านบ้างแต่ในที่สุดแล้วก็ให้การยอมรับทุกฝ่ายทั้งฝ่ายทหารอย่างกลุ่ม จปร.รุ่น5 กลุ่มพรรคการเมืองอย่างพรรคชาติไทยและและส.ว.บางส่วน

“ความรู้สึกตอนนั้นคิดตรงกันว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการคนที่มาคุมสถานการณ์ได้และเป็นแบบอย่างในการเป็นผู้นำที่ถูกต้องที่จะมาดูแลชาติบ้านเมืองและก็ต้องเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์เพราะประชาชนเบื่อหน่ายการทุจริตในสมัยจอมพลถนอมและจอมพลประภาสเป็นผู้นำอยู่ตอนนั้น”นายสุจิต กล่าว


เมื่อถามว่า หากจะเปรียบเทียบกับในสมัยนี้จะนำเปรมโมเดล มาใช้ได้หรือไม่  นายสุจิต กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากให้ใช้คำว่าเปรมโมเดล เพราะจะเป็นการไปเปรียบเทียบว่าทำไมพลเอกเปรมทำได้และพลเอกประยุทธ์จะทำไม่ได้ เพราะพลเอกเปรมพ้นจากแวดวงการเมืองไปแล้วจึงไม่อยากเปรียบเทียบ

“หากถามว่าช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ที่จะมีนายกรัฐมนตรีคนนอก ไม่ว่าจะเป็น คนคสช.หรืออดีตผบ.ทบ.ได้ไหม  ต้องยอมรับว่าความรู้สึกนี้มีมากเพราะประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนมากกลัวว่ารัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งมาแล้วจะเป็นแบบเก่ามีการทุจริคตคอรัปชั่นและไม่เป็นไปตามความต้องการในหลายเรื่อง จึงไม่ค่อยแน่ใจว่าการให้นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองจะเหมาะหรือไม่ ดังนั้นหลายคนที่เชียร์พลเอกประยุทธ์ ก็เห็นว่าที่ผ่านมาท่านก็ทำงานดีเสียสละ และออกตัวว่าต้องการปูพื้นฐานประชาธิปไตยให้ประเทศแต่ไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจหรือต้องการตำแหน่งอะไรต่อ ซึ่งก็เหมือนกับพลเอกเปรมตอนที่เป็นแม่ทัพภาคและย้ายมาเป็นผู้นำในกองทัพบกก็ไม่ได้แสดงอาการว่าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นตรงนี้ก็อาจจะคล้ายกันแต่มีข้อแตกต่างคือ การเมืองเปลี่ยนแปลงไปเยอะจาก30 ปีที่แล้วที่พลเอกเปรมมีอำนาจ เนื่องจากพรรคการเมืองค่อนข้างมีความเชื่อมั่นว่าพรรคเขาจะต้องเป็นรัฐบาลและคนที่มีเสียงข้างมากควรจะได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเสียงของ ส.ส.ก็จะบอกว่าต้องเอาคนในก่อนหากไม่ได้ค่อยเอาคนนอก  แต่การต่อต้าน จะดูได้จากการเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองนั้นๆเลือกคนที่มีความสามารถและเข้าตาประชาชนหรือไม่ซึ่งแตกต่างจากสมัยพลเอกเปรมซึ่งไม่มีคู่แข่งในขณะนั้น แต่การเลือกตั้งครั้งนี้คนก็จะพิจารณาได้ถึงความเหมาะสม”นายสุจิต กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีการวางหลักการเทียบเคียงอย่างไรหากมีนายกรัฐมนตรีคนนอกให้ปฎิบัติตามเปรมโมเดล นายสุจิต กล่าวว่าพูดลำบากแต่ในทางปฎิบัติคนไทยที่มีสิทธิมีเสียงในการลงคะแนนและนักวิชาการรวมทั้งสื่อ ก็พอจะรู้หากเทียบเคียงกับบุคคลในบัญชีรายชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่แต่ละพรรคการเมืองเสนอมากับฝ่ายที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ที่คิดว่าเป็นต่อ  ซึ่งโอกาสที่ฝ่ายการเมืองจะส่งคนที่หน่วยก้านดีคงลำบาก ดังนั้นโอกาสที่พรรคการเมืองจำเป็นต้องสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีก็อาจจะมีมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่ว่าแต่ละพรรคการเมืองจะสามารถไปเอาชื่อใครที่เหมาะสมมาเป็นนายกรัฐบมนตรีเสนอต่อประชาชนเพราะหลายคนที่มีความรู้ความสามารถแบบไทยๆคงไม่อยากออกตัวให้ชื่อปรากฎ เชื่อว่าสุดท้ายก็ต้องเป็นคนในพรรคนั้นๆอยู่ดี ดังนั้นจึงมีโอกาสที่พรรคการเมืองจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องดูก่อนว่าพรรคการเมืองจะเอาชื่อคนที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีมาเสนอต่อประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน


เมื่อถามถึงความยากง่ายในการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีคนนอกในสมัยนี้กับสมัยพลเอกเปรม นายสุจิต กล่าวว่าคงมีความคล้ายกันในความลำบากเรื่องดูแลพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นการปรับครม.หรือการยุบสภา แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องมีคนช่วย ไม่ว่าจะเป็นนายทหารก็ดี นักการเมืองหรือนักธุรกิจก็ดี เพื่อเป็นคนที่จะมาต่อรองกับพรรคการเมือง แต่อยากฝากไว้ว่าอย่ายอมให้รัฐมนตรีแสวงหาผลประโยชน์อย่างที่เคยทำมา ถึงแม้ว่าเราจำเป็นจะต้องเอาบุคคลเหล่านั้นมาเป็นรัฐมนตรีเพื่อให้ได้เสียงในสภาแต่ไม่ใช่ว่าจะต้องยอมให้รัฐมนตรีเหล่านี้มาหาประโยชน์ดึงเสียงสส.สว.ในสภา ไม่อย่างนั้นก็จะเข้ารูปแบบเดิมอย่างที่เคยเป็นมา ทำอย่างไรจะให้มีหลักการใหม่หากทำได้บ้านเมืองก็จะเดินไปได้ด้วยดี

สำหรับวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น นายสุจิตเชื่อว่ามาถึงจุดหนึ่งนายกรัฐมนตรีคนนอกจะออกจากตำแหน่งเพื่อให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งได้บริหารประเทศ เพราะถือว่าได้เข้ามาวางรากฐานประเทศแล้วซึ่งพลเอกเปรมก็ทำแบบนั้นหลังจากปกครองประเทศมา 8 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้แสดงศักยภาพและความสามารถต่อไป

เมื่อถามถึงการยอมรับนายกรัฐมนตรีคนนอกจากนานาประเทศ นายสุจิต กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าต่างชาติไม่ติดใจอะไร เพียงแต่ต้องการให้มีการเลือกตั้งและต้องการให้ประชาชนได้แสดงออกและแสดงความคิดเห็นตามกระบวนการประชาธิปไตยโดยเชื่อว่าหลังจากการทำประชามติแล้วมีการเลือกตั้งสถานการณ์ประชาธิปไตยในประเทศจะดีขึ้นตามลำดับ

เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันมีโอกาสที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่  นายสุจิต กล่าวว่าเป็นไปได้มาก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคนที่พรรคการเมืองเสนอชื่อมานั้นเป็นใคร คนนอกคือใครตรงนี้คือเงื่อนไขที่สำคัญ ทั้งนี้โดยมารยาทพูดลำบากที่จะระบุชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีคนนอกเป็นใคร และคนๆนั้นจะรับตำแหน่งหรือไม่ด้วย ดังนั้นการคาดคะเนไปก่อนหมือนเป็นการไปชี้ทางว่าคนนี้เหมาะสมและแรงต่อต้านจะโหมกระหน่ำจากฝ่ายค้านและคนๆนั้นอาจจะไม่รับก็ได้  ส่วนพลเอกประยุทธ์จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่ตรงนี้ตนไม่ทราบเพราะตนไม่รู้ใจนายกรัฐมนตรีตนตอบแทนไม่ได้แต่เชื่อว่าถึงเวลานายกรัฐมนตรีคงให้คำตอบเอง.-สำนักข่าวไทย

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ (22 ก.ย. 68) คาดว่าในช่วงวันที่ […]

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]