ป.ป.ช.ยันไม่มีใครสั่งเร่งคดี “ชัชชาติ”

กรุงเทพฯ 8 ม.ค.-ประธาน ป.ป.ช. ยันไม่มีใครสั่งเร่งคดีที่เกี่ยวข้องกับ “ชัชชาติ” แจงยืนหลักไม่เป็นเครื่องมือของใคร ทำใจกลายเป็นอาหารโอชะในช่วงใกล้เลือกตั้ง


พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า ป.ป.ช. รื้อคดีที่เกี่ยวข้องกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า ตนไม่ทราบเรื่องว่ามีการเร่งคดีนายชัชชาติ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน และเวลาจะเลือกตั้งเพียงอีกแค่สองเดือนเรารอได้ เพราะ ป.ป.ช.ไม่อยากเป็นเครื่องมือใคร ตอนนี้ทำงานซ้ายก็โดน ขวาก็โดน โดนทั้งหมด ดังนั้นเราจะต้องยืนหลักของเราให้ได้ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้นตรงกันข้ามกับที่เป็นข่าว การที่บอกว่าพอนายชัชชาติดังขึ้นมา แล้วไปดึงเรื่องของเขาขึ้นมาเพราะเป็นคู่แข่งของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนั้น คิดว่าเป็นประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาเพื่อจะให้ชนกัน ป.ป.ช.ทำงานอยู่ตรงนี้ก็ยิ่งต้องระวังอย่างมาก ถ้าจะบอกว่าเร่งคดี ก็คือเร่งการดำเนินงานในปี 2562 เพราะเราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าในปี 2562 จะมีเรื่องใดที่ต้องจบบ้าง ซึ่งเป็นไปตามแผนปฎิบัติงาน เพื่อเร่งรัดการทำงานว่ามีคดีสำคัญใดบ้างที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จ ต้องประกาศเป็นคำมั่นสัญญาต่อคณะกรรมการ แต่ไม่ได้บอกว่าให้เร่งช่วงก่อนการเลือกตั้ง

“ในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรามีการพูดกันว่าในช่วงเลือกตั้งนี้ ต้องระวังมากว่าอย่าไปเป็นเครื่องมือใคร เพราะไปชี้มูลความผิดฝั่งนั้นแล้วฝั่งนี้ได้เปรียบ แล้วเป็นการไปดิสเครดิตเขา เราก็จะกลายเป็นผู้ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ดังนั้นยืนยันว่าไม่มีนโยบายอย่างนั้น ในช่วงนี้ยิ่งใกล้เลือกตั้ง เราต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่จะไปทำร้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราต้องยืนตรงกลางให้ได้” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว


พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ป.ป.ช.ต้องทำงานในหน้าที่ให้ชัดเจนและมุ่งมั่น อะไรที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในเรื่องไหน ก็ต้องมาดูว่าติดขัดเรื่องอะไรแล้วดำเนินการไป ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเอกสารหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว สังคมก็จะดูเอง ทั้งนี้กระบวนการทำงานของ ป.ป.ช. คือกระบวนการไต่สวนเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ ข้อเท็จจริงจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน นอกจากนั้นตามกฎหมายใหม่ของป.ป.ช. จะเข้าสู่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งในการดำเนินการของ ป.ป.ช. ถือเป็นความลับ และมีขั้นตอน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เมื่อวินิจฉัยแล้ว สามารถขอดูได้จากรายงานการประชุมหรือคำวินิจฉัย ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์ หรือจะนำประเด็น ป.ป.ช.ไปหาเสียงในการเลือกตั้ง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เราคงห้ามไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ และ ป.ป.ช.ถือเป็นบุคคลสาธารณะ เราก็ต้องยอมรับ

“การวิพากษ์วิจารณ์ไหนมีเหตุมีผล เราก็ต้องนำมาปรับปรุงการทำงานเพื่อให้โปร่งใส ซึ่งผมบอกว่าเป็นเรื่องปกติ และเข้าใจว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ทุกคนก็อยากจะแสดงบทบาท และ ป.ป.ช.ก็น่าจะเป็นอาหารอันโอชะ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำงานโดยคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา เพราะถ้า ป.ป.ช.กระทำผิดกฎหมาย เราก็ต้องโทษเป็นสองเท่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนทำหน้าที่อย่างสุจริตยุติธรรม แต่หากคิดว่าเจ้าหน้าที่ หรือกรรมการ ป.ป.ช. ทำไม่ถูกต้อง ก็ชี้เบาะแสมา มีกระบวนการตรวจสอบอยู่” พล.ต.อ.วัชพร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว