กรมอุตุฯ 5 ม.ค.-ประกาศกรมอุตุฯ ฉบับที่ 24 ‘ปาบึก’ อยู่ห่าง15 กิโลเมตรจากชายฝั่ง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เตือนอาจเกิดน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำได้ ส่วนกรณีน้ำท่วม จ.สมุทรปราการ-นครปฐม เป็นอิทธิพลทางอ้อมของพายุ
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุปาบึก” (PABUK)” ฉบับที่ 24 ลงวันที่ 5 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา ระบุว่า
เมื่อเวลา11.00 น.ของวันนี้ (5 ม.ค.62) พายุดีเปรสชัน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลอันดามัน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 15 กิโลเมตรจากชายฝั่งทางทิศตะวันตกของอ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หรือที่ละติจูด 8.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.1 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ โดยจะมีผลกระทบต่อไปอีก 1 วัน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเเละน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำได้
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคตะวันออกเเละภาคใต้ระวังอันตรายจากลมแรงและคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือต่อไปอีก 1 วัน
นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์ในไทยจะดีขึ้นเรื่อยๆ เเละพายุน่าจะออกจากไทยประมาณวันที่ 7-8 ม.ค.นี้ ส่วนกรณีที่มีน้ำท่วมขังจากน้ำทะเลหนุนใน จ.นครปฐมเเละสมุทรปราการนั้น ถือเป็นผลกระทบที่เกิดจากอิทธิพลของพายุทางอ้อม เนื่องจากมีน้ำที่ก้นอ่าวไทยถูกพัดมาด้านบน จนเกิดการเอ่อล้นท่วมในส่วนของภาคกลางในกลุ่มกรุงเทพมหานครเเละปริมณฑล รวมถึงภาคตะวันออกด้วย ซึ่งจะมีฝนตกอยู่ถึงวันพรุ่งนี้ ย้ำเตือนประชาชนอย่าเพิ่งไว้วางใจ ลงไปทำกิจกรรมในน้ำ หรือใกล้ชายฝั่งมากเกินไป
ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอย่าเพิ่งเข้าไปในบ้านหรือพื้นที่เสี่ยง เพราะอาจยังมีน้ำที่ค้างในป่าเขา อาจจะเอ่อท่วมภายหลังได้ ซึ่งควรเฝ้าระวัง 2-3 วันจากนี้ หลังจากพายุลูกนี้ จะยังไม่มีพายุลูกไหนเข้ามาในไทยในช่วงนี้อีก.- สำนักข่าวไทย