สำนักข่าวไทย 3 ม.ค.-ผู้เชี่ยวชาญด้านแหล่งน้ำ ห่วง จ.นครศรีธรรมราช จากอิทธิพล ‘พายุปาบึก’ พื้นที่เชิงเขาเสี่ยงดินถล่ม ขณะที่อำเภอเมือง ฝนตกแช่เกิน24 ชม.หวั่นน้ำท่วม
นายชวลิต จันทรรัตน์ วิศวกรแหล่งน้ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีมกรุ๊ป เปิดเผยว่า อย่าเพิ่งตกใจที่มีบางคนพูดบอกว่าพายุโซนร้อนปาบึกดูเหมือน จะเป็นพายุที่มีความรุนแรงล้างผลาญ ที่จะเคลื่อนที่เข้าสู่ภาคใต้,จะรุนแรงมากที่สุด นับแต่ปี พ.ศ.2505 เป็นต้นมา คือปีที่พายุไต้ฝุ่นแฮเรียส เมื่อ ต.ค.2505 ทำให้คนเสียชีวิต935 คน ต่อมาไต้ฝุ่นเกย์ เมื่อ พ.ย.2532 ทำให้คนเสียชีวิต 602 คน ความจริงพายุโซนร้อนปาบึก(เป็นภาษาลาว ภาษาไทยคือปลาบึก)นี้ เป็นพายุโซนร้อน มีความเร็วลม ไม่เกิน 118 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต้องไม่เอาไปเทียบกับพายุไต้ฝุ่น ที่มีความเร็วลม 150-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง คนละรุ่นกันเลย
นายชวลิต กล่าวต่อว่า พายุลูกนี้เป็นพายุดีเปรสชั่น สลับกับพายุโซนร้อนมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2561ที่ยังเป็นชื่อพายุลูกหมายเลข35 ที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกก็เป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนที่ผ่านฟิลิปปินส์ แล้วลดความแรงลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว มาก่อสร้างตัวใหม่ในทะเลจีนใต้ เป็นพายุดีเปรสชั่นลูกที่36 กว่าญี่ปุ่นจะกำหนดชื่อได้ ก็รั้งรออยู่นาน เพราะคงคิดว่า จะเป็นเพียงพายุดีเปรสชั่น(ความเร็วลมไม่เกิน 63 กิโลเมตร/ชั่วโมง) พอมีแนวโน้มจะเป็นพายุโซนร้อนอีกครั้ง(ความเร็วลม ไม่เกิน 118 กิโลเมตร/ชั่วโมง)ญี่ปุ่นจึงตั้งชื่อให้ว่าพายุหมายเลข1ของปี2019(ชื่อ1901) ที่ชื่อ “ปาบึก”
นายชวลิต กล่าวต่อไปอีกว่า อยากบอกชาวบ้าน ว่าระวัง ดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยง ที่จะน่าห่วงจริงๆ คือพื้นที่ที่ฝนจะตกแช่อยู่เกิน 24 ชั่วโมง ที่ปริมาณฝน เกิน 200 มิลลิเมตรอาจจะทำให้เกิดดินถล่มได้ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่นพื้นที่เชิงเขาแถบ จ.นครศรีธรรมราชและเป็นห่วงการระบายน้ำ ของอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งอาจจะยังระบายน้ำไม่ทัน และพื้นที่อื่นๆ ที่ระบายน้ำได้ช้าจะเกิดน้ำท่วมได้ .-สำนักข่าวไทย